บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 166)

บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 166)

ท่านนโปเลียนการรบที่พวกเราเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ท่านคิดอย่างไร เราจะกลับมาแก้แค้นไหม” พลตรีโรเบอร์โต ถามนโปเลียน เพราะในช่วงที่รอนโปเลียนก็สนทนากับพลตรีโรเบอร์โต ปล่อยให้ร้อยโทลูคัสกับบักเคนทำหน้าที่ตรวจการณ์ดูข้าศึกจะบุกมาในทิศทางใด

“การรบแพ้มันเป็นเรื่องกลยุทธ์ความพร้อมรบที่บางครั้งเราคาดไม่ถึงรู้เขา รู้เรา แต่การที่เรารู้เขาไม่ลึกซึ้ง ไม่ทราบขีดความสามารถข้าศึกแน่ชัด ทำให้เราคาดการณ์ผิดได้ แต่ความพ่ายแพ้ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่เป็นบทเรียนที่เราจะต้องจำและนำไปปรับใช้ในการรบครั้งหน้า”

“ทุกสงครามมีความเสี่ยง ที่ผมตัดสินใจบุกโจมตี เพราะไม่สามารถรอปืนใหญ่จากเปอร์เซียได้ เราเสียเปรียบทุกอย่าง อาวุธ ขวัญและกำลังใจ ฝ่ายอังกฤษอยู่ในเมือง รอตั้งรับ แต่พวกเราต้องเดินทางไกล เหนื่อยล้า อาหาร น้ำดื่มขาดแคลน ถ้าไม่รบผมว่าขวัญและกำลังใจทหารจะตกต่ำ เวลามีค่ากว่าทองคำ ผมจึงตัดสินใจเสี่ยงทำสงครามดู  ท่านนายพลรู้ไหมกว่าที่ผมจะตัดสินใจรบ ผมต้องคิดหลายตลบ ผมเชื่อมั่นในกองทัพของพวกเราทุกคน และผมคิดว่าทหารของพวกเรามีความกล้าหาญ พร้อมที่จะรบเพื่อชัยชนะ”

“ผมต้องคิดแบบช้ากับเร็วเพื่อการตัดสินใจ” นโปเลียนบอกกับพลตรีโรเบอร์โต

“คิดแบบเร็วกับคิดแบบช้าเป็นอย่างไร ผมเพิ่งเคยได้ยินคิดแบบเร็วกับแบบช้า” พลตรีโรเบอร์โตชักสงสัยการคิดมีทั้งแบบเร็วและแบบช้า

“อ๋อคิดแบบเร็ว ในการจัดการเรื่องราวต่าง ๆในกองทัพ ความรับผิดชอบต่าง ๆ ที่ผมต้องรับผิดชอบ ปัญหาและสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ผมคิดและตัดสินใจไปตามสัญชาติญาณของผม บางครั้งมันก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด ส่วนการคิดแบบช้า ผมต้องใช้เวลาทบทวนนานมาก ต้องพิจารณารายละเอียดให้รอบคอบ ดูผลได้ผลเสีย ความล้มเหลวในการรบครั้งนี้ มันมีตัวแปร ที่ผมคิดช้าไม่ได้ เพราะขวัญและกำลังใจ อาหาร น้ำ มัน เวลา มันทำให้ผมต้องคิดแบบเร็ว และก็เกิดเหตุการณ์ ดังที่ท่าน    นายพลเห็น ถ้าผมคิดแบบช้า ผมต้องถามตัวเอง นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ แม้ภาพที่ผมสร้างในสมองในการบุกอียิปต์และเดินทัพต่อไปเพื่อยึดเมืองต่างๆ  มันจะชัดเจน ว่าผมต้องได้รับชัยชนะ แต่ความจริงไม่ใช่ ผมตั้งโจทก์ผิด ผมก็ได้คำตอบที่ผิด มันเป็นไปไม่ได้ที่โจทก์ผิด แต่คำตอบจะถูกต้อง

“ผมได้รับบทเรียน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามชีวิตต้องดำเนินต่อไป ชีวิตมีอะไรอีกมากมายมากกว่าการเร่งรีบอย่างไม่หยุดยั้ง สงครามครั้งนี้สอนบทเรียนผมเยอะมาก ผมมองอนาคตของผมในฝรั่งเศสและยุโรป ผมคิดช้าๆ เกี่ยวกับอนาคตของผมในการทำทัพบุกตะลุยในยุโรปมากกว่าที่อัฟริกา ผมมองอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้ายุโรปต้องเปลี่ยนแปลงผมเริ่มร่างแผนไว้ในสมอง และคิดทบทวนแผน การบุกอียิปต์คือบทเรียนที่ผมได้เรียนรู้ ไม่มีใครเป็นผู้ชนะตลอดกาล”

“พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว ผมคิดว่าพวกอังกฤษ กับออตโตมันคงไม่มาแล้ว บอกให้ร้อยโทลูคัส เตรียมนำบอลลูนลง เย็นนี้พระอาทิตย์ตกดินพวกเราจะออกเดินทาง” นโปเลียนบอกกับพลตรีโรเบอร์โต

“ครับท่าน” หลังจากนำบอลลูนลง นโปเลียนก็ได้เดินทัพกลับไปเมืองชาม การเดินทางในทะเลทรายก็อาศัยบ่อหน้าที่ทหารเสนารักษ์เดินทัพไปก่อนหน้าได้เหลือ บ่อน้ำเอาไว้ให้นโปเลียนได้ดื่มกิน ผ่านไปสองวัน กองทัพนโปเลียนก็ได้มาถึงโอเอซีสที่ค้นพบใหม่ ทหารเสนารักษ์ ได้ตั้งทัพรอนโปเลียน ทหารหน่วยเสนารักษ์ ก็ได้รักษาอาการทหารที่เจ็บป่วยจากการรบที่บาดเจ็บไม่มาก ก็ให้พักผ่อน และไปล่ากระต่ายที่มีอยู่ชุกชุมในโอเอซีสแห่งนี้มาทำเป็นอาหารเลี้ยงกองทัพช่วงรอ นโปเลียน

เมื่อนโปเลียนเดินทัพมาถึง ได้พักที่โอเอซีสแห่งนี้ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเมืองชาม

วันที่นโปเลียนถอยทัพถึง เมืองชาม ชาวเมืองชาม รวมทั้งสตรีจำนวนมากได้มาตั้งแถวและมองหาสามี ที่จากไปรบ เสียงร้องไห้คร่ำครวญของหญิงเมืองชามหลายพันคน ที่ต้องสูญเสียสามีไปในการรบครั้งนี้ สลับกับเสียงร้องดีใจเมื่อเห็นทหาร ที่เป็นสามีของตนเดินทางกลับมาหาโดยปลอดภัย ซูซี่ได้มามองหาบักเคน ส่วนญันนะฮ์ได้มากับพ่อ เพื่อรอรับร้อยโทลูคัสเดินทางกลับเมื่อ ซูซี่เห็นบักเคนขี่ม้ามาคู่กับนโปเลียน เธอถึงกับวิ่งไปหาบักเคนโดยไม่อายสายตาของคนที่มารอต้อนรับทหาร แม้ว่าจะเป็นการต้อนรับ ปนความเศร้าในความพ่ายแพ้ในการรบ แต่ทุกคนก็ดีใจเมื่อเห็นสามีมีชีวิตรอดกลับมาได้        

“คุณเคน เสียงร้องตะโกนอย่างดีใจพร้อมกับโบกมือของซูซี่ ทำให้บักเคนนึกถึงหนังอินเดีย ที่นางเอกต้องวิ่งและร้องเพลงและวิ่งในทุ่งหญ้า  พร้อมส่ายหน้าไปมา บักเคนคิดจะลงจากหลังม้าและวิ่งไปกอดซูซี่ และวิ่งไล่กันไปมาเหมือนกับหนังอินเดีย แต่นี่มันทะเลทราย มีสายตานับพันคู่ บักเคนเลยนึกอาย ค่อย ลงจากหลังม้าและโอบกอดซูซี่เอาไว้

“ฮือ ฮือ ๆ”  “อย่าร้องไห้ซูซี่พี่ไม่เป็นไร กลับมาแล้วอวัยวะยังอยู่ครบ” บักเคนปลอบซูซี่ ผมไปบอกท่านนโปเลียนก่อนว่าผมจะไปกับซูซี่

บักเคนเหลือบไปเห็นร้อยโทลูคัสกำลังสนทนากับสาวสวยหุ่นดีมีผ้าคลุมศรีษะ กำลังยืนคุยกับร้อยโทลูคัสและเห็นชายชาวเปอร์เซีย รูปร่างสูงใหญ่ยืนเคียงข้าง บักเคนเดาได้ทันทีน่าจะเป็นบิดาของ ญันนะฮ์

หลังจากบักเคนได้ขออนุญาติกับนโปเลียนเพื่อไปพักที่บ้านซูซี่ “ตามสบายครับ คุณเคนพักให้หายเหนื่อยก่อน เรื่องอื่นไว้ค่อยคุยกันวันหลัง” นโปเลียนบอกกับบักเคน

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *