บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 168)
by admin · สิงหาคม 26, 2020
บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 168)
หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน นโปเลียนได้ซื้อ อูฐ แพะ วัว ไก่ของชาวบ้านมาทำอาหารเลี้ยงฉลองวันชาติฝรั่งเศส ทหารที่บาดเจ็บจากการสู้รบบางคนที่พอเดินไหว ก็ได้มาร่วมงานวันชาติ ฝรั่งเศส ทุกคนเกิดความสงสัย อยู่ดีวันนี้ทำไมกลายเป็นวันชาติฝรั่งเศสไปได้
“ไม่นึกเลย มารบต่างแดนแล้ววันนี้กลายเป็นวันชาติฝรั่งเศส เป็นตั้งแต่เมื่อใดไม่เคยเห็นรู้เรื่องเลย” พลทหารมาร์ติด เอ่ยกับเพื่อน
“ข้าก็งงเหมือนกัน” สิบตรีลีออนเอ่ยขึ้น
“วันชาติฝรั่งเศสแล้วไง ก็ต้องรบเหมือนเดิม มีอะไรแตกต่างจากวันอื่นบ้าง” พลทหารมาร์ตินบอกกับเพื่อนทหาร
“เอออย่าพูดมากทหาร รอฟังท่านนโปเลียนจะบอกความเป็นมาของวันชาติ” ร้อยเอกโจซัวร์บอกกับผู้ใต้บังคับบัญชาถึงความสงสัยในวันชาติฝรั่งเศส
สี่โมงเย็นพระอาทิตย์เริ่มลดความร้อนแรงลง นโปเลียนได้สั่งให้ทหารทุกหน่วยมาเข้าแถวสนามหน้าจวน ทหารจากเดินทัพมาสามหมี่นกว่าคน เหลือเพียงไม่ถึงหมี่นคน เพื่อฟังถึงวัตถุประสงค์การจัดงานฉลองวันชาติฝรั่งเศส
“พี่น้องทหารหาญทุกท่าน พวกท่านได้ร่วมรบกับผมมา ผ่านความเหนื่อยยาก หลายท่านที่ร่วมเดินทางมาไม่มีโอกาสได้มาร่วมงานฉลองวันชาติฝรั่งเศสในวันนี้ ดวงวิญญาณของผู้กล้าหาญคงได้รับรู้ วันนี้วันที่ 14 กรกฎาคม เป็นวันครบรอบหนึ่งปีการทลายป้อมบัสตีย์ ในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1789 คณะกรรมการดิเร็กตัวร์ ให้ถือวันนี้เป็นวันชาติของพวกเรา นอกจากนี้ได้ให้จัดงานเฉลิมฉลองแห่งชาติ” (La Fête Nationale) และให้เรียกวันนี้เป็นวัน “สิบสี่กรกฎา (le quatorze juillet) พวกเราไม่มีโอกาสได้ไปร่วมงานที่ประเทศฝรั่งเศส แต่พวกเราได้จัดงานวันเดียวกัน ขอให้ทหารหาญทุกท่านจงดื่มกินและร่วมเฉลิมฉลองวันชาติไปพร้อม ๆ กับทหารหาญที่ฝรั่งเศส” หลังจากนโปเลียนบอกถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันชาติฝรั่งเศสลง
ทหารดุริยางค์ได้เดินสวนสนามเข้ามาในสนาม ด้วยการบรรเลงเพลง ลามาร์แซแยช (La Marseillaise) ตามมาด้วยเพลง เราจะทำตามสัญญา (Nous respecterons la promesse) ทหารม้าได้เดินแปรขบวน เดินสวนสนามกันเข้ามาถือธงชาติฝรั่งเศส และธงประจำหน่วยของตน ตามมาด้วยทหารม้า ส่วนทหารปืนใหญ่ ที่เคยมีอานุภาพยิ่งใหญ่ แต่เมื่อไม่มีปืนใหญ่ เลยไม่ได้สวนสนาม มีเพียงทหารปืนใหญ่ยืนเรียงรายประจำปืนใหญ่ 5 กระบอก เพื่อยิงเฉลิมฉลองวันชาติทหาร ส่วนทหารที่ไม่ได้เดินสวนสนามและชาวบ้านที่มาดูการจัดงานพากันแหงนหน้ามองท้องฟ้า บอลลูนกำลังลอยขึ้นเหนือเมืองชาม
บักเคนนำซูซี่มาดูการจัดงานวันชาติฝรั่งเศส สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับซูซี่ที่เพิ่งเคยเห็นบอลลูนลอยขึ้นฟ้า ดวงตาซูซี่เป็นประกายด้วยความตื่นเต้น
ส่วนยืนข้างบักเคน ก็ญันนะฮ์และญันนะฮ์ที่มาด้วยผ้าคลุมหน้าสีดำยืนดูอยู่กับพ่อที่มาดูการจัดงานชาติฝรั่งเศส เพราะร้อยโทลูคัสได้ฝากให้บักเคนช่วยดูแลญันนะฮ์ ให้ด้วยตนต้องไปนำบอลลูนขึ้นฟ้า
พันเอกเจนัวร์มองมาเห็นบักเคนสนทนากับซูซี่อยู่ไกลได้ขออนุญาตนโปเลียนเพื่อมาตามบักเคนให้ไปนั่งด้วยกัน
“คุณเคนทำไมมายืนหลบตรงนี้ไปนั่งด้วยกัน” พันเอกเจนัวร์บอกกับบักเคน
“ผมเกรงใจเพราะมีซูซี่และญันนะฮ์ด้วยมันไม่เหมาะครับท่านผู้พัน”
“ไม่เป็นไรไม่ต้องเกรงใจ ก็ไปนั่งด้วยกันทั้งหมด เดี๋ยวให้พลทหารจัดที่นั่งให้” พันเอกเจนัวร์บอกกับบักเคน
“ผู้พันผมจะแนะนำสองคนให้ท่านรู้จัก นี่คือญันนะฮ์ คู่รักของร้อยโทลูคัส และก็” บักเคนไม่รู้ชื่อพ่อของญันนะฮ์ “ผมอับดุล กาซิมเป็นพ่อของญันนะฮ์”
“ยินดีได้รู้จักครับ” พันเอกเจนัวร์เอ่ยตอบ
“อีกคนท่านคงทราบดี ซูซี่ภรรยาผม” พันเอกเจนัวร์ยิ้ม “เมียคุณเคนสวยดีนี่ ถ้าอยู่ฝรั่งเศสถ้าจัดประกวดคนงามคงได้รางวัลคนสวยแห่งปี”
ซูซี่เห็นพันเอกเจนัวร์เอ่ยชมถึงกับเขินอาย “ขอบคุณค่ะท่าน”
“ป๊ะไปนั่งที่เก้าอี้ด้วยกัน” พันเอกเจนัวร์เชิญทุกคนให้เดินตามไปนั่งที่เก้าอี้
บักเคนได้แนะนำทุกคนให้กับนโปเลียนได้รู้จัก
“ท่านนโปเลียน นี่คุณญันนะฮ์ คู่รักของร้อยโทลูคัส และคุณอับดุล กาซิม พ่อของญันนะฮ์” บักเคนแนะนำให้นโปเลียนได้รู้จัก
“ยินดีต้อนรับทุกท่าน มา มา มานั่งด้วยกัน” นโปเลียน
“พี่เคนค่ะ ทำไมธงชาติฝรั่งเศสถึงมีสามสี หมายความว่าอย่างไรค่ะ” ซูซี่ถามบักเคน บักเคนพอฟังซูซี่ถามถึงกับเกาหัว ไม่รู้จะตอบอย่างไร
คำถามซูซี่ได้ยินไปถึงนโปเลียน “อ๋อธงชาติฝรั่งเศส ซึ่งจะมี 3 สีคือ น้ำเงิน ขาว แดง (bleu-blanc-rouge) ก่อนจะมีการปฏิวัติ ทลายป้อมบัสตีย์ ธงสีน้ำเงินและ สีแดงเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีส ส่วนสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ราชวงศ์ บูร์บงส์ (Bourbons) หลังจากปฎิวัติที่คุณเคนเข้าร่วมขบวนการปฏิวัติ ได้ร่วมต่อสู้และการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ ความหมายของแต่ละสีในธงชาติ ได้เปลี่ยนไปสีขาว หมายถึง Liberté หรือเสรีภาพ สีน้ำเงิน หมายถึง Egalité หรือความเสมอภาค ถือว่าทุกคนมีความเสมอภาคกัน ไม่ว่าหญิงหรือชาย รวยหรือจน ทุกคนมีความเท่าเทียมกันส่วนสีแดง หมายถึง Fraternité ภราดรภาพ หมายถึงความเป็นพี่น้อง มีอะไรก็ควรที่จะแบ่งปันกัน” นโปเลียนได้อธิบายความหมายสีธงชาติให้ทุกคนได้ทราบ
บักเคนสงสัย เพราะนโปเลียนก็มาร่วมรบที่อียิปต์ทำไมรู้ความหมายสีธงชาติได้ดีขนาดนี้
“ขอโทษท่านนโปเลียน ทำไมท่านถึงทราบธงชาติแต่ละสีหมายถึงอะไร ผมละงง ก็ผมมากับท่าน ท่านกำหนดความหมายของสีธงชาติเองหรือเปล่าครับท่าน” บักเคนสอบถามด้วยความสงสัย
“ตลกนะคุณเคน ผมจะไปกำหนดสีของธงชาติ ด้วยตัวผมเองได้อย่างไร คณะกรรมการดิเร็กตัวร์ ได้มีมติและแจ้งมาในจดหมาย เพราะคณะกรรมการเชื่อว่า ต้องมีคนสอบถามแน่นอน เลยกำหนดความหมายของสีธงชาติขึ้นมาใหม่ แต่ผมไม่ได้กล่าวเพราะอากาศมันร้อน จะทำเป็นจดหมายเวียนให้หน่วยทหารแต่ละหน่วยได้ทราบความหมายของสีธงชาติที่เปลี่ยนไป” นโปเลียนบอกกับบักเคน