บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 203)

บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 203)

คณะนักวิทยาศาสตร์สำรวจพรรณพืช สัตว์ ทั่วดินแดนอียิปต์ วันหนึ่ง คณะนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ นำโดย ฌองโปลิยง หรือฌอง-ฟรองซัวส์ ฌองโปลิยง (Jean-François Jean-Paulon)  เกสพาร์ด หรือเกสพาร์ด มอนจ์ (Gaspard Monge) ครุยส์ หรือครุยส์ ลี บัคตุยเลย์ (Claude-Louis Bertholet) นักเคมีที่โด่งดังในมหาวิทยาลัยปารีส  กูฟฟราน เป็นนักชีววิทยา เอสเจนส์ กูฟฟราน (Etienne Geoffroy Saint-Hilaire) และซีแลร์ หรือซีแลร์ จู๊ส ซีซาร์ ลีออน ซาร์ลินี (Jules-Cesar Lelorgne de Savigny) ได้ร่วมกันสำรวจพันธ์พืชและสัตว์ วันหนึ่งได้เดินทางมาสำรวจภูเขาซีนาย (Mount Sinai) หรือที่เรียกว่า ภูเขาแห่งโมเสส มีความสูง 2,285 เมตร หรือประมาณ 7,497 ฟุต ภูเขาแห่งนี้มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับทางศาสนา  เพราะมีการปรากฎชื่อภูเขาแห่งนี้ครั้งแรกในพระคริสตธรรมคัมภีร์ แต่เดิมภูเขาแห่งนี้ชื่อว่า  โฮเรบ

สถานที่ ที่พระผู้เป็นเจ้าปรากฎให้โมเสสเห็นเป็นครั้งแรก  โดยมาให้เห็นในลักษณะไฟลุกบนต้นไม้แต่ว่าไม่ไหม้และได้ตรัสกับโมเสสว่าให้ปลดปล่อยชาวอิสราเอลที่เป็นทาสอยู่ในอียิปต์ ต่อมาเมื่อโมเสสสามารถปลดปล่อยชาวอิสราเอล  ได้แล้ว พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกให้ไปเข้าเฝ้าเป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืนด้วยกัน          บนภูเขาซีนาย ได้ประทานบัญญัติ 10 ประการ หรือ คำสอน ข้อปฏิบัติตามคัมภีร์ฮีบรู แก่โมเสสครั้งแรก ณ ภูเขาแห่งนี้  ภูเขาแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่สำคัญทางศาสนาในปัจจุบัน

การสำรวจที่ภูเขาซีนายนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบถ้ำลึกลับจึงได้เดินเข้าไปสำรวจ คณะนักวิทยาศาสตร์ได้เดินลงไปในถ้ำลึกลงไปจากผิวดินประมาณ 50  เมตร และเดินสำรวจไปในถ้ำได้ประมาณ 500  เมตร เมตร ได้พบหีบวางอยู่บนแท่นในถ้ำลึกลับโดยบังเอิญ

“ท่านมีหีบอะไรวางอยู่บนแท่น”  เกสพาร์ด ได้เห็นหีบลึกลับวางอยู่บนแท่นได้เอ่ยปากบอกเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ ที่เดินสำรวจด้วยกัน

“ไหนลองเข้าไปดูใกล้ ๆ ซิ” ฌอง โปลิยง บอกกับเกสพาร์ด ทุกคนรีบเดินไปดูแท่นที่วางอยู่บนแท่น

“โอพระเจ้าช่วย นี่มันหีบแห่งพันธะสัญญา นี่” กูฟฟรานอุทานด้วยความตกใจ ที่ได้ค้นพบ หีบแห่งพันธะสัญญา โดยบังเอิญ

“พระเจ้า นี่เป็นการค้นพบอันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” ซีแลร์อุทานออกมา

“อา ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า สวรรค์จงคุ้มครองพวกข้าด้วยเถิด” เกสพาร์ดอุทานออกมา

“มันเป็นของจริงหรือไม่เพราะมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับหีบศักดิ์สิทธิ์”      กูฟฟรานเอ่ยกับนักวิทยาศาสตร์ที่สำรวจด้วยกัน

“ผมก็ไม่แน่ใจ” ซีแลร์บอก

“แล้วที่บอกว่า หีบศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่อัฟริกาตะวันออก อยู่ในถ้ำศักดิ์สิทธิ์บนภูเขา ดัง (Dunghe) บางส่วนก็ว่าอยู่ที่กรุงโรม บางก็ว่าอยู่ที่เอธิโอเปีย แต่พวกเรามาค้นพบที่นี่มันน่าจะเป็นของจริงนะ” เกสพาร์ดบอกกับเพื่อนนักวิทยาศาสตร์

“ผมคิดว่าพวกเราปิดเป็นความลับและนำหีบไปให้ท่านนโปเลียนนำไปที่ฝรั่งเศสให้ นักวิทยาศาสตร์ที่ปารีสและนักบวชได้ทำการพิสูจน์ดีกว่าว่าเป็นของจริงหรือของปลอม” กูฟฟรานเสนอความคิดออกมา

“ผมก็ว่าดีนะ เราต้องหาอะไรมาคลุม และใส่กล่องสีดำเพื่อกันคนสงสัย”     ฌอง โปลิยง เสนอความคิดออกมา

“ผมเห็นด้วย”  ซีแลร์เห็นด้วยกับ ฌอง โปลิยง

เหล่านักวิทยาศาสตร์จึงหยุดสำรวจรีบนำหีบศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาจากถ้ำก่อน บรรจุลงกล่องสีดำ และได้ตั้งที่พักแรม และให้ลูกหาบที่คอยอยู่นอกถ้ำ รีบไปตามทหารเพื่อนำหีบไปยังไคโร ก่อนที่พวกเขาจะสำรวจหาพันธ์ สัตว์ที่อาศัยอยู่ในถ้ำต่อไป ถ้ำมีความยาว หลายกิโลเมตร

ตามตำนานชาวยิว ได้นำหีบพันธสัญญาติดตัวมาหลบหนีเมื่อชาวบาบิโลเนียนบุกยึดกรุงเยซูซาเล็มและจับชาวยิวไปเป็นทาส แต่มีชาวยิวกลุ่มหนึ่งได้นำหีบพันธสัญญาหลบหนีมาตั้งรกรากในอียิปต์และได้นำหีบมาเก็บไว้ในถ้ำลึกเพื่อไม่ให้มีใครค้นพบได้ นอกจากจะมีลายแทงหนังแกะนำทาง

หีบพันธสัญญาเชื่อกันว่าบรรจุพระคัมภีร์ไบเบิลที่โมเสสเป็นผู้บันทึกด้วยตนเอง ภายในหีบประกอบไปด้วยและไม้เท้าของอาโรน พี่ชายของโมเสส            ไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ เหยือกใส่อาหารศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า มานาและแผ่นศิลาบันทึกบัญญัติ 10 ประการ

นักวิทยาศาสตร์ได้เขียนจดหมายบอกย้ำให้นโปเลียนให้ปิดเป็นความลับสุดยอดห้ามบอกใครเด็ดขาด ในหีบที่พวกตนค้นพบ หีบพันธสัญญาโดยบังเอิญ

นโปเลียนหลังจากได้รับจดหมายจากนักวิทยาศาสตร์ได้นำหีบพันธสัญญาในกล่องสีดำเก็บไว้อย่างดีไม่บอกให้ใครทราบตามจดหมายที่เขียนย้ำมา วันเดินทางกลับเมืองอเล็กซานเดรีย ได้ให้รัสตัมและร้อยเอกโจซัวร์นำกล่องดำขึ้นรถม้าของนโปเลียน  ถ้ามองภายนอกนึกว่าเป็นลังใส่ตำรับตำราที่นโปเลียนนำติดตัวมา 

ตำนานหีบแห่งพันธสัญญา สร้างขึ้นรูปแบบที่พระยาห์เวห์

ทรงชี้แนะต่อโมเสสที่ภูเขาซีนาย หีบพันธสัญญาทำด้วยไม้กระถินเทศยาว 110 เซนติเมตร กว้าง 66 เซนติเมตร และสูง 66 เซนติเมตร หีบหุ้มด้วยทองคำบริสุทธิ ทั้งด้านในและด้านนอกขอบทองคำล้อมรอบหีบ มีห่วงทองคำสี่ห่วงสำหรับถือหีบติดไว้ที่มุมทั้งสี่และมีที่สอดคานหามด้วยไม้กระถินเทศหุ้มด้วยทองคำ แล้วสอดคานหามเข้าที่ห่วงข้างหีบสำหรับใช้ยกหามหีบนั้น ไม้คานหามให้สอดไว้ในห่วงของหีบ ห้ามถอดออก

ในตำนานที่ชาวยิวหลบหนีออกจากอียิปต์ มีปุโรหิตเผ่าเลวีหามหีบแห่งพันธสัญญานำขบวนอพยพของชนชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์ ทิ้งระยะห่าง 1000 เมตร มุ่งตรงไปยังแม่น้ำจอร์แดน ทันทีที่เท้าของปุโรหิตผู้หามหีบแตะผิวน้ำของแม่น้ำจอร์แดนซึ่งอยู่ในฤดูน้ำหลาก สายน้ำก็แยกออกจากกันจนเหลือพื้นแห้งให้ขบวนอพยพได้เดินทางข้ามไปได้อย่างปลอดภัย เมื่อข้ามพ้นหมดแล้ว น้ำในแม่น้ำก็ไหลรวมกันเป็นกระแสน้ำเชี่ยวกราก ทหารอียิปต์ที่ติดตามมาก็ไม่สามารถข้ามไปได้ ได้แต่จ้องมองชาวยิวเดินจากไป

กองทหารนโปเลียนได้พักหลังจากเดินทางมาจนเกือบย่ำรุ่ง มีเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่บริเวณโอเอซีส นโปเลียนได้สั่งให้ทหารพักผ่อนและหาที่นอนบริเวณ หิน ให้ขุดทรายเพื่อหลบแดด บางส่วนก็ทำที่พักบริเวณ ต้นไม้ที่ขึ้นประปรายอยู่บริเวณนี้ ทหารได้นอนพักเอาแรง หลายคนหลับเป็นตายจากการเดินทางที่เหนื่อยอ่อนบทเรียนที่เดินทัพไปเมืองเอเคอะ ได้สอนให้นโปเลียนเตรียมน้ำดื่มไว้อย่างพอเพียง  โดยได้ขนน้ำมาบนรถม้า ลากอูฐ หลายร้อยตัว ถูกผูกไว้กับต้นไม้ กองทหารม้าได้ให้ม้าพักผ่อน และนำเสบียงเป็นข้าวสาลีม้าให้ม้ากิน บางส่วนก็เตรียมหุงหาอาหารเพื่อกินก่อนนอนเพราะกลางวันอากาศทะเลทรายจะเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ

รัสตัมได้มาดูแล จัดเตรียมบริเวณที่จอดรถม้าให้กับนโปเลียน

นายท่าน ที่ตรงนี้เหมาะที่ท่านจะได้หลับนอน” รัสตัมบอกกับนโปเลียน”

“ขอบใจ ผมไม่ยุ่งยากในเรื่องหลับนอน” นโปเลียนบอกกับรัสตัม

“เจ้าจงไปหาที่พักหลับนอนก็แล้วกัน แต่อย่าห่างรถม้ามากนัก” นโปเลียนบอกกับรัสตัม

“ได้ครับนายท่าน”

รถม้าของนโปเลียนได้ใส่สิ่งของวัตถุโบราณจากไคโรเตรียมขนกลับไปฝรั่งเศสบางส่วน ส่วนมากจะเป็นทองคำแท่งโบราณ สร้อยคอทองคำ พร้อมลูกปัด หน้ากากทองคำ มีชิ้นหนึ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด

*** ต่อมาภายหลัง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ได้สั่งให้ ไฮน์ริช ลูอิทพ็อลท์ ฮิมเลอร์ ผู้รับผิดชอบหน่วย ชุทซ์ชตัฟเฟิล (เอ็สเอ็ส)  ค้นหาหีบพันธสัญญาในฝรั่งเศส ซึ่งฮิมเลอร์มีความยินดีที่ฮิตเลอร์ มอบหมายให้ค้นหาหีบศักดิ์สิทธิ์ เพราะฮิมเลอร์มีความสนใจในด้านโหราศาสตร์และสิ่งลี้ลับ เขาได้ก่อตั้งองค์กรอาเนินแอร์เบอ (Ahnenerbe) เพื่อทำการวิจัยเกี่ยวกับพันธุ์ศาสตร์, ภูมิศาสตร์การเมือง, นิรุกติศาสตร์, มานุษยวิทยา, ประวัติศาสตร์, โบราณคดี, เทพนิยาย ตลอดจนเวทมนตร์คาถา ฮิมเลอร์มุ่งหวังใช้ผลการวิจัยเป็นเครื่องมือสนับสนุนลัทธิเชื้อชาติอารยันอันสูงส่ง มีการส่งหน่วยเพื่อสืบเสาะตามหาวัตถุในตำนานต่าง ๆ อาทิ หีบแห่งพันธสัญญา ทวนศักดิ์สิทธิ์ จอกศักดิ์สิทธิ์ 

You may also like...