บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 205)

บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 205)

พระอาทิตย์เริ่มตกดิน  ความร้อนอบอ้าว เริ่มหายไป อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิในทะเลทราย แตกต่างกันสุดขั้ว กลางวันร้อน กลางคืนเย็นยะเยือก ทหารหลายนายได้ล้มป่วยเพราะพิษไข้เนื่องจากอากาศเปลี่ยน ทหารเสนารักษ์ ได้เอายามาให้ทหารที่ป่วยได้ทานตั้งแต่เช้าและให้นอนพักผ่อน ตกเย็นอาการเริ่มดีขึ้นกองทหาร            นโปเลียนได้เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง โดยอาศัยดาวเหนือเป็นตัวกำหนดทิศทางการเดิน

นโปเลียน พลเอกกาลีเบอร์และบักเคน ได้ขี่ม้าออกโดยมีกองทหารไปสำรวจเส้นทางล่วงหน้า ความมืดเริ่มมาเยือน ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาว ส่องประกายระยิบระยับ ส่วนบนพื้นดิน แสงไฟจากคบเพลิงได้ส่องสว่างเป็นแนวยาว กองทหารนโปเลียนได้เคลื่อนทัพมุ่งหน้าสู่เมืองอเล็กซานเดรีย

“คุณเคนเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับการเดินทางมาอียิปต์ครั้งนี้” นโปเลียนถามบักเคน

“ได้ประสบการณ์มากมาย บางครั้งผมก็ตั้งคำถามว่า มาทำไมอียิปต์ และมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ผมพยายามหาคำตอบให้กับตนเอง”

“แล้วคุณเคนได้คำตอบยังครับ” เกลแบร์ถามบักเคน

“ผมได้คำตอบแต่ไม่แน่ใจว่าจะถูกหรือไม่ ผมมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร การค้นหา  คำตอบ มันทำให้ผมสามารถอดทนต่อความยากลำบาก ความเจ็บปวดที่สาหัสที่สุดคือเหตุผลที่แข็งแกร่งที่สุด ผมตั้งเป้าหมายของชีวิตอะไรที่ทำให้ผมเจ็บปวดมากที่สุด ผมตัดสินใจว่าจะไม่พบกับสิ่งที่เจ็บปวดอีกครั้ง”

“หมายความว่าอย่างไรคุณเคน” ผมฟังแล้วไม่เข้าใจ นโปเลียนถามบักเคน

“ผมจะยกตัวอย่าง เด็กน้อยมาจากครอบครัวยากจนต้องทนทุกข์ทรมาน ด้วยความหิว บางครั้งไม่มีอาหารตกถึงท้องมาหลายมื้อ ความหิวโหยอย่างแสนสาหัส ร่างกายซูบผอมเหลือแต่โครงกระดูก เด็กน้อยมีความเจ็บปวดจากความหิว ความจน เด็กน้อยจึงดิ้นรนเพื่อให้ตนเองมีชีวิตรอด อะไรที่ทำให้ตนเองไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ คือเหตุผลที่แข็งแกร่งที่สุด ที่เด็กน้อยจะไม่ยอมให้ชีวิตในอนาคตต้องหิวโหยอย่างกับวัยเด็กที่ตนประสบ ต้องดิ้นรนทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดถึงวันพรุ่งนี้ เป็นทางเดียวที่สำคัญที่จะทำให้เป้าหมายบรรลุผม คือมุ่งไปที่ความเจ็บปวดจากความหิวโหยและตัดสินใจว่าชีวิตนี้จะต้องมีอาหารทุกมื้อและมีบ้านอาศัย” บักเคนบอก กับนโปเลียน

“ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีความเจ็บปวดแสนสาหัส ความเจ็บปวดเพราะความต้องการไม่ได้รับการตอบสนอง เป้าหมายทำให้มีพลังและความชัดเจน” เกลแบร์สรุปคำพูดของบักเคน

นโปเลียนได้ยินคำพูดของเกลแบร์ ก็คิดตามเป้าหมายของตนคือรวมยุโรปและแผ่ขยายดินแดนให้ฝรั่งเศสให้ได้มากที่สุด เป้าหมายของตนยิ่งใหญ่แม้มันจะยากเย็นก็ตาม เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็เหลือแต่วิธีการ หรือกระบวนการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ มันเป็นความท้าทายที่จะต้องเอาชนะให้ได้

“ขอบใจมากคุณเคน ผมแค่ถามคุณเคนคำถามเดียวทำให้ผมได้คิดมากมาย ความสำเร็จเหมือนจะเกี่ยวกับการกระทำ ผมต้องมุ่งไปข้างหน้าลืมความล้มเหลว  ไม่หาเหตุผลเข้าข้างตนเอง ไม่หาคนอื่นมารับผิดแทนผมที่ตัดสินใจผิดพลาด”        นโปเลียนบอกกับทุกคน

รัสตัมได้ยินนโปเลียนพูดในความเป็นผู้นำยิ่งให้การยอมรับที่ตนตัดสินใจไม่ผิดติดตามรับใช้ นโปเลียนด้วยความจงรักภักดี หลังการสนทนาของนโปเลียนจบลง ก็มีแต่ความเงียบจิ้งจอกทะเลทรายหูยาว  ห้าหกตัวกำลังวิ่งไล่จับหนูเจอร์บัว ตัดหน้า ม้าของนโปเลียน  บักเคนมองเห็น หมาป่า หูยาว หนูหูยาว ถึงกับอึ้ง ทำไมสัตว์ทะเลทรายถึงมีหูยาว

“รัสตัมพอทราบไหม ทำไม่ หนู กับหมาจิ้งจอกทะเลทรายถึงมีใบหูยาว”      บักเคนสอบถามรัสตัม

“สัตว์ทะเลทรายมีใบหูยาวเพราะใบหูยาวใหญ่ช่วยให้มันได้ยินเสียงเคลื่อนไหวของเหยื่อใต้ผืนทรายได้ดี นอกจากนี้หูยาวใหญ่ช่วยระบายความร้อน” รัสตัสตอบบักเคน

กองทหารนโปเลียนเดินมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ ทุกคนมีแต่ความเงียบ ไม่พูดจากัน เดินไปจนเกือบย่ำรุ่ง นโปเลียนได้สั่งพักและให้ทหารตั้งค่ายพักผ่อน

ที่หน้าหาดทรายอ่าวอาบูกีร์ เรือใบจอดทอดสมออยู่ ร้อยตรีหญิงเอเวลิน อยู่บนเรือได้ดูทหารหญิงและลูกเรือของอาดัมกำลังขนเสบียงอาหารน้ำดื่มขึ้นบนเรือ โดยมีอาดัม เฟาเรส ซูซี่ ญันนะฮ์และพ่อ รออยู่บริเวณอ่าว

พันตรีหญิงนาตาช่า ดาร์ก ได้สนทนากับอาดัม “คุณอาดัม มั่นใจแค่ไหนว่าการเดินทางพวกเราจะไม่พบกับกองเรืออังกฤษ

“สบายใจได้ท่านผู้พัน ไม่มีปัญหากองเรืออังกฤษ ถ้ากองเรืออังกฤษมาก็ชักธงสัญลักษณ์ขึ้นก็ไม่มีปัญหาอะไร

“แล้วถ้าพบกองเรือจักรวรรดออตโตมันหรือโจรสลัด ท่านจะแก้ปัญหาอย่างไร” ผู้พันนาตาช่าถามด้วยความกังวล

“ผมบอกท่านนโปเลียนหมดแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร สบายใจได้ท่านผู้พัน      ไม่ต้องกังวล วันนี้เรือต้องออกเดินทาง ท่านผู้พันไปตรวจสอบความเรียบร้อยดีกว่า ไม่ต้องกังวลปัญหาที่จะเกิดขึ้น ถ้าผู้พันไม่แน่ใจก็เอาปืนใหญ่ขึ้นไปสักห้ากระบอกก็ได้ แต่ผมคิดว่าไม่จำเป็น” อาดัมบอกกับผู้พันนาตาช่า

“วันนี้ออกเดินทาง จะมีเรือของจักรวรรดิออตโตมัน มาให้ความคุ้มครอง    เมื่อพ้นอ่าวอาบูกีร์ ผู้พันสบายใจได้ เรือของออตโตมัน จะไม่มาใกล้เรือเราแน่นอน แต่จะคอยคุ้มครองอยู่ห่างๆ ต่อจากนั้นก็เป็นเรือรบอังกฤษคอยคุ้มกันต่อ” อาดัมบอกกับผู้พันนาตาช่า

“คุณอาดัมว่าอย่างไรนะ พวกเรารบเกือบตายกับจักรวรรดิออตโตมันกับพวกอังกฤษ มีเหตุผลอะไรที่จะมาคุ้มครองพวกเราน่าจะมาจับพวกเราเป็นเชลยมากกว่า” ผู้พันนาตาช่าบอกกับอาดัมด้วยความสงสัย ในอิทธิพลของอาดัมที่ทำให้ศัตรูมาให้ความคุ้มครองเรือที่เดินทางไปฝรั่งเศส มันไม่มีเหตุผลที่ต้องมาคุ้มครอง

“ผู้พันผมเป็นพ่อค้ามีสายสัมพันธ์อันดีกับทุกกลุ่ม ผลประโยชน์ทางการค้าอยู่เหนืออื่นใด ที่ท่านนโปเลียนมารบที่อียิปต์ก็เพื่อผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ หรืออังกฤษ ก็แย่งกับฝรั่งเศสในการขยายดินแดนเพื่อการค้า แต่ผมกลับนำความมั่งคั่งมาให้พวกเขา แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรที่พวกอังกฤษกับออตโตมันต้องมาจับตัวผม” อาดัมบอกกับผู้พันนาตาช่า

You may also like...