บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 247)

บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 247)

“ท่านคิดอย่างไรท่านพลเอกมีโน่” นโปเลียนถามพลเอกมีโน่

“ผมเลือกพลทหารนาธาเนียลครับ” พลเอกมีโน่ตอบ นโปเลียน

“แล้วท่านนายพลล่ะ”

“ผมเลือกสิบเอกฟรานเวียร์ สิบเอกฟรานเวียร์ชอบ และมีความฝันที่จะเป็นทหาร จากคำตอบเขาคือทหารมืออาชีพ ทำตามที่ได้รับมอบหมาย แสดงว่าเป็นทหารที่ดี” พลเอกกาลีเบอร์ตอบ นโปเลียน

“คุณเคนล่ะ เลือกใคร”

“ผมคิดเหมือนท่านนายพลกาลีเบอร์ ผมต้องขอโทษด้วยที่เสนอพลทหารนาธาเนียล” บักเคนตอบ นโปเลียน

“ตอบผิดหมดทุกท่าน” นโปเลียนบอกทุกคน

“ผมเลือก พลทหารนาธาเนียล ที่ไม่เลือกสิบเอกฟรานเวียร์ เพราะ สิบเอกฟรานเวียร์ ได้ทำตามความฝันแ แต่จริงแล้วเขาชอบเพราะความจำเป็น หาเลี้ยงชีวิต และครอบครัว สิ่งที่สิบเอกฟรานเวียร์จะทำได้ดีคงเป็นชาวไร่ เพราะเขารักที่จะเป็นชาวไร่ เขาคงเป็นชาวไร่ได้ดี และถ้าทำไปเรื่อย ๆ เขาก็จะมีความชำนาญและเป็นชาวไร่ที่มีความสุข มีความคิดในเรื่อง เกษตร

“แต่เขามาเป็นทหาร เพราะความฝัน เหมือนกับเด็กหลายคนที่ฝันอยากจะเป็นทหาร แต่พอโตขึ้น และถ้าเป็นทหารแล้ว เขาถึงจะรู้ตัวว่า อาชีพทหารไม่เหมาะกับเขา แค่ความฝันไม่พอต้องเป็นสิ่งที่ทำได้ดีด้วย การเป็นทหารไม่ใช่จะเป็นลูกน้องตลอดเวลา ต้องมีพัฒนาการเพื่อเป็นผู้บังคับบัญชาด้วย จากคำตอบเขา สิบเอกฟรานเวียร์เป็นผู้ตามทึ่ดี แต่เป็นผู้นำจะไม่โดดเด่น เหมือนกับทหารทั่วไป ส่วนพลทหารนาธาเนียลเหตุผลที่ผมเลือกเพราะ เพราะพลทหารนาธาเนียลหลงใหลอยากจะเป็นทหาร  เขารีบมาสมัคร และการเป็นทหารทำให้เขาได้ปรับปรุงตัวเอง นั่นคือเหตุผลที่ผมเลือกเขา สิ่งที่เขารัก และสนใจที่จะฝึกฝนเพื่อทำให้ได้ดียิ่งขึ้นเป็นสิ่งดี”

“พลทหารนาธาเนียลได้เรียนรู้กับรัสตัม กับคุณเคน เขาเปลี่ยนแปลงไปมาก สำหรับความฝันของเขา ที่อยากเป็นพ่อค้า เดินทางไปค้าขายในต่างแดนได้ท่องเที่ยวหาประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป ก็เป็นส่วนเติมเต็มให้กับพลทหารนาธาเนียล ถ้าวันหนึ่งเขาลาออกจากทหารไปทำตามความฝันเป็นพ่อค้า เมื่อได้เป็นพ่อค้าแล้ว เขาอาจจะไม่ชอบก็ได้ เพราะอาชีพพ่อค้า ต้องมีเลห์เหลี่ยม แพรวพราว มากกว่าการเป็นทหาร เขาอาจจะไม่ชอบหรือเลิกเป็นพ่อค้าก็ได้” นโปเลียนอธิบายให้ทุกคนได้ทราบ

“นับว่าน่าสนใจมาก ทำให้ผมได้คิดทำไม่หลายคนไม่ประสบความสำเร็จเพราะเขาทำตามความฝัน ซึ่งเมื่อทำได้สักพักก็จะรู้ตัวว่าไม่ชอบไม่เหมาะกับอาชีพที่ตนเองใฝ่ฝัน แต่ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ดี และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น พัฒนาไปเรื่อยๆ” พลเอกมีโน่เอ่ยขึ้น

“ใช่ครับ ความฝันกับ สิ่งที่ตนเองทำได้ดีไม่เหมือนกับ ฝันอยากเป็นคนวาดรูป แต่ไม่มีจินตนาการ ก็ไม่สามารถวาดรูปได้ดี เป็นได้แค่คนวาดรูปธรรมดาคนหนึ่ง” นโปเลียนอธิบายซ้ำให้ทุกคนได้เข้าใจ

          “ก็จริงของท่าน” พลเอกกาลีเบอร์เอ่ยขึ้น

ในห้องเกิดความเงียบหลังจากพลเอกกาลีเบอร์พูดจบ คุณเคนคิดอะไรอยู่หรือ “ผมคิดถึงฝรั่งเศสสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ปกครอง หลายครอบครัว ต้องไปรบที่อเมริกาสู้กับอังกฤษ ไปทำสงครามเพื่อให้คนแนวหลังมีชีวิตอยู่รอดท่ามกลางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ หลายครอบครัวที่ไปเป็นทหารมีชีวิตดีกว่าคนฝรั่งเศสอีกหลายครอบครัวที่อดอยากบางคนที่ไม่สามารถเป็นทหารได้ เพราะอายุมาก หรือพิการ หลายคนก็เสียชีวิตเพราะถูกประหารด้วยกิโยติน ด้วยข้อหาขโมยขนมปังหนึ่งก้อน” บักเคนบอกกับนโปเลียน

“คุณเคนรู้ไหม จิตรกรคนหนึ่งได้แรงบันดาลใจจากการได้รับรู้เรื่องราวความรักของลูกที่มีต่อพ่อที่ติดคุก จิตรกรได้วาดรูปลูกสาวมาเยี่ยมพ่อที่ติดคุกด้วยข้อหาขโมยขนมปังหนึ่งก้อน ศาลตัดสินประหารชีวิต ก่อนประหารชีวิต ในห้องขังไม่มีอาหารเลี้ยงนักโทษยกเว้นน้ำ

นักโทษไม่ตายเพราะถูกกิโยตินก็อดตายด้วยความหิวโหยเพราะขาดอาหาร ลูกสาวคนเดียวของนักโทษได้ขออนุญาตผู้คุมมาเยี่ยมพ่อทุกวัน ทุกวันหล่อนจะนำลูกน้อยมาด้วย เกิดอะไรขึ้นรู้ไหมคุณเคน”

นโปเลียนถามบักเคน

“ไม่ทราบครับ”

“ผ่านไปก่อนประหารสองเดือน ชายคนนี้ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้”

“อะไรนะท่านอดอาหารดื่มแต่น้ำตลอดสองเดือนไม่เสียชีวิต โอพระเจ้า” บักเคนเกิดความงุนงง

“ใช่คุณเคน ผู้คุมก็สงสัย เลยแอบดูด้วยความสงสัย ผลปรากฏว่า เธอแอบยืนหน้าอกเข้าไปในห้องขังให้พ่อของเธอได้ดูดนมจากเต้าของเธอประทังชีวิต ผู้คุมได้นำเรื่องที่ชายคนนี้มีลูกสาวมาเยี่ยมไปแจ้งต่อศาล ศาลเลยเมตตาให้งดโทษประหารชีวิต เพราะความสงสารของลูกที่มีต่อพ่อ และศาลสั่งปล่อยตัวชายคนนี้ให้เป็นอิสระ” นโปเลียนเล่าให้บักเคนฟัง

“โอ ความรักของลูกช่างยิ่งใหญ่ ผมว่าก็สมควร โทษขโมยขนมปัง หรือไข่หนึ่งฟอง ลงโทษประหารชีวิตมันก็โหดไปหน่อย คนอดอยากหิวโหยจำเป็นต้องเป็นโจร”

 “กฎหมายออกมาเพื่อควบคุมบ้านเมืองไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ที่ต้องรบขยายดินแดนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเศรษฐกิจภายในฝรั่งเศส เมื่อรบชนะก็ได้ทรัพยากรธรรมชาติกลับสู่ฝรั่งเศส” พลเอกกาลีเบอร์บอกกับบักเคน

“สงครามที่เรามารบที่อียิปต์เพื่อกรุยเส้นทางสู่เอเชีย เหมือนสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่พระองค์ทำมาก่อน” นโปเลียนบอกกับบักเคน

“ผมขอถามท่านนโปเลียน การมารบที่อิยิปต์ของท่านเป็นการทำความฝันใช่ไหมครับ”

นโปเลียนเมื่อได้ยินคำถามบักเคน เลยเงียบเพราะรู้ตัวดีว่ามารบที่อียิปต์ทำตามความฝันอยากจะเจริญรอยตามพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ แต่ผลการมารบไม่ประสบความสำเร็จ เพราะความไม่พร้อมของฝรั่งเศสในเรื่องอาวุธและเสบียงและเงินเดือนของทหาร”

“เอาละรัสตัมไปบอกให้พลทหารนาธาเนียลไปเรียนรู้กับร้อยโทลูคัส ส่วนสิบเอกฟรานเวียร์ให้ติดตามพลเอกกาลีเบอร์”

“ครับนายท่าน”

บักเคนเข้าใจในความเงียบของนโปเลียนที่เลี่ยงไม่ตอบคำถาม ตนเองก็เลยนิ่งไม่ถามต่อ

  หลังพระอาทิตย์ตกดิน ทหารเติร์กได้ตั้งค่ายอยู่บริเวณชายหาด แสงไฟที่ค่ายทหาร ความมืดเข้ามาเยือน ในท้องทะเล มืดสนิท เรือบดลำเลียงเสบียงอาหารจากเรือรบอังกฤษมาส่งให้ทหารเติร์ก 

แกรนด์วิเซียร์ พันตรี ชามิล และร้อยเอกเบิร์น ได้ขึ้นเรือบดกลับไปยังเรือรบเพื่อร่วมวางแผนกับลอร์ดเบนจามินที่กลับไปก่อนหน้า

หลังจากเรือบดที่แกรนด์วิเซียร์ พันตรี ชามิล และร้อยเอกเบิร์นมายังเรือรบที่ลอร์ดเบนจามินอยู่บนเรือ ทหารเรือได้ส่งบันไดมาให้ทุกคนได้ขึ้นไปบนเรือ  “สวัสดี ท่านแกรนด์วิเซียร์” ลอร์ดเบนจามินเอ่ยทักทาย

ทั้งคู่ได้เดินมาจับมือทักทายกันและพากันเดินเข้าไปในห้องภายในเรือ

“ผิดคาดฝรั่งเศส ยังเหลือทหารอยู่ในอียิปต์อยู่มาก อาวุธพร้อม แสดงว่าการข่าวเราผิดพลาด” แกรนด์วิเซียร์เอ่ยกับลอร์ดเบนจามิน

“ใช่ท่านแกรนด์วิเซียร์ พวกฝรั่งเศสเหลือเรือรบเพียงลำเดียว ถ้าเราปิดกั้นเส้นทางทั้งทางบก ทางทะเล ฝรั่งเศสจบแพ้แน่” กัปตันอาร์เธอร์บอกกับแกรนวิเซียร์

“มันก็จริง แต่ปัญหาของพวกเราคือเสบียง ถ้าอยู่นานเสบียงเราก็ขาดแคลนเราจะหาเสบียงเพิ่มได้จากที่ไหน”

          แกรนด์วิเซียร์เอ่ยด้วยความกังวล ปัญหาเสบียงที่ขนมาเพื่อทำสงคราม

 

          “ท่านลอร์ดเราใช้เสบียงเกือบหมด เหลืออยู่สำหรับทหารไม่เกินอีก หนึ่งสัปดาห์ถ้าเราไม่เผด็จศึกฝรั่งเศส เสบียงน่าจะหมด จะเกิดปัญหาใหญ่” พันตรี ชามิลบอกกับลอร์ดเบนจามิน

You may also like...