บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 273)

“พวกเราฆ่าไอ้พวกฝรั่งเศสให้หมด พวกเราสู้ตาย” เสียงตะโกนของทหารเติร์กร้องอย่างโกรธแค้นเมื่อได้ยินเสียงปืนดังกึกก้องทั่วชายหาด ทหารเติร์ก ได้เอาปืนวางบนกราบเรือและเล็งไปยังทหารฝรั่งเศสที่กำลังพายเรือใกล้เข้ามา

“พายเข้าไปพวกเราสังหารมันให้หมด” เสียงตะโกนของทหารฝรั่งเศสที่ตะโกนบอกเพื่อนทหารที่กำลังพาย

“เอาละหยุดได้แล้ว พยายามประคองเรือให้นิ่งๆ  เตรียมปืนใหญ่ให้พร้อม” พันเอกเจนัวร์ได้บอกลูกเรือและตนเองก็เข้าไปจุดชนวนปืนใหญ่ขนาดเล็ก

“หวีด บึ้ม” กระสุนปืนตกห่างจากเรือของแกรนด์วิเซียร์ประมาณ 50 เมตร ทำให้เกิดคลื่นกระเพื่อม

“พายเข้าไปใกล้กว่านี้หน่อย ให้ได้ระยะกระสุนปืนใหญ่” พันเอกเจนัวร์สั่งการให้ฝีพายพยายามพายเรือเข้าไปใกล้กว่านี้

“ หวี๊ด บึ้ม” กระสุนปืนใหญ่ของเติร์กยิงตกไม่ห่างจากเรือของพันเอกเจนัวร์ทำให้เกิดคลื่นกระฉอกทำให้เรือของทหารฝรั่งเศสที่พายไม่ห่างจากบริเวณที่กระสุนตก ทำให้เรือพลิกคว่ำไปหลายลำ เรือของพันเอกเจนัวร์ก็พลิกทำให้ปืนใหญ่ตกน้ำ

“หมดกันปืนใหญ่ตกน้ำแล้ว” พันเอกเจนัวร์รำพึงออกมาและก็ช่วยกันพลิกเรือกลับและปีนขึ้นไปบนเรือใหม่พร้อมกับเหล่าทหารฝรั่งเศษ

ตอนนี้เราเหลือปืนใหญ่อยู่บนเรือของพันเอกอาร์รอน กับบนเรือของทหารอีกสี่กระบอก ทำให้พันเอกเจนัวร์ได้ตะโกนบอกพันเอกเจนัวร์

“เป็นอะไรไหมผู้พันเจนัวร์” 

“ กระสุนมันตกใกล้ ทำให้คลื่นสูงทำให้เรือพลิก ไม่เป็นอะไรมากผู้พันระวังปืนใหญ่พวกเติร์กด้วย อย่าให้เรือคว่ำอีกนะปืนใหญ่เราจะไม่เหลือ” พันเอกเจนัวร์ตะโกนบอกพันเอกอาร์รอน

          “พวกเราระวังด้วย” เสียงพันเอกอาร์รอนตะโกนบอกทหารฝรั่งเศสที่กำลังพายเรือตรงเข้าไปหาเรือของแกรนด์วิเซียร์

พันเอกเจนัวร์ได้ให้ทหารพายเรือไปยังเรือที่มีปืนใหญ่อยู่บนเรือพายอีกลำ เพื่อที่จะได้ทำการยิงอีกครั้ง

********************************

หลังจากยิงทหารเติร์กเสียชีวิตหมด พันตรีเอ็ดเวิร์ดได้ไปรายงานนโปเลียนถึงปฎิบัติการในครั้งนี้

“เรียนท่านเชลยถูกสังหารหมดแล้ว ท่านจะให้เชลยชุดสองมาประหารต่ออีกหรือไม่” พันตรีเอ็ดเวิร์ดรายงานนโปเลียน

“วันนี้ไม่ต้อง ปล่อยให้มีลมหายใจอีกวัน วันน้าต้องจัดการกับเรือเติร์กที่น่าจะเป็นแกรนด์วิเซียร์ให้เสร็จสิ้นไป” นโปเลียนบอกกับพันตรีเอ็ดเวิร์ด

“ครับท่านจะให้ผมไปช่วยพันเอกเจนัวร์หรือไม่ครับ”

ไม่ต้องให้ทหารไปตามร้อยโทเดนนิสมาพบผมด่วนและผู้พันรีบควบม้าไปยังจุดซ่อนเรือรบของเราให้นำเรือรบออกมาสกัดเรือของ

แกรนด์วิเซียร์เอาไว้ไม่ให้หลบหนี” นโปเลียนบอกกับพันตรีเอ็ดเวิร์ด

“ครับท่าน” พันตรีเอ็ดเวิร์ดได้ให้ทหารไปตามร้อยโทเดนนิสที่ควบคุมเชลยอยู่ในค่ายที่สองมาพบกับนโปเลียน

“ท่านต้องการให้ผมทำอะไรหรือครับ”

“มีทุ่นระเบิดเหลืออีกมากไหม” นโปเลียนถามร้อยโทเดนนิสที่มาพบนโปเลียน

“เหลือไม่มากครับท่านเพราะใช้จมกองเรืออังกฤษไปหลายสิบลำ ท่านจะเอาทุ่นระเบิดมาทำอะไรหรือครับ” ร้อยโทเดนนิสถามนโปเลียนด้วยความสงสัย

“ผมจะให้เดนนิสเอาทุ่นระเบิดขึ้นเรือบดไปปล่อยให้ลอยเข้าหาเรือรบของแกรนด์วิเซียร์ที่จอดอยู่หน้าอ่าว เพราะตอนนี้ พันเอกเจนัวร์กับพันเอกอาร์รออนกำลังทำการปิดล้อมเรือของแกรนด์วิเซียร์เอาไว้ ผมเลยคิดได้ ถ้าเกิดเรือจะหนี ฝ่ายเรามีแค่เรือบดไม่สามารถไล่ทันเรือรบของแกรนด์วิเซียร์ได้ นอกจากนี้บนเรือยังมีปืนใหญ่เพราะเสียงปืนใหญ่ยิงเรือฝ่ายเราอยู่ ผมกลัวแกรนด์วิเซียร์จะหนี ผมได้ให้ผู้พันเอ็ดเวิร์ดไปเอาเรือรบของเราที่จอดห่างออกไปมาจัดการเรือรบของแกรนด์วิเซียร์” นโปเลียนบอกกับร้อยโทเดนนิส

“ครับท่านเดี๋ยวผมจะให้ท่านเอาเกวียนไปลำเลียงทุ่นระเบิดและขึ้นเรือบดไปวางทุ่นระเบิดไว้อีกด้านกันเรือของแกรนด์วิเซียร์จะหลบหนี” ร้อยโทเดนนิสบอกกับนโปเลียน

“ดีมากรีบไปจัดการ ผมต้องการเผด็จศึกในวันนี้ให้เสร็จสิ้นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน” นโปเลียนบอกกับร้อยโทเดนนิส

“ครับท่าน”

*************************************

“ผู้พันเอ็ดเวิร์ดมีข่าวพวกอังกฤษกับเติร์กไหม” ร้อยตรีลีโอจากหน่วยเสนารักษ์ที่ประจำการบนเรือรบลำสุดท้ายของฝรั่งเศสที่จอดซ่อนเอาไว้เพื่อป้องกันเรือรบอังกฤษทำลายได้ตะโกนทักทายพันตรีเอ็ดเวิร์ด

“มีอังกฤษถอนทัพไปแล้ว เหลือเพียงทหารเติร์กที่เราจับเป็นเชลยและเรือผู้นำของเติร์กกำลังสู้รบกับพันเอกเจนัวร์อยู่ที่หน้าอ่าว ท่านนโปเลียนอยากให้นำเรือรบไปจัดการเรือของฝ่ายเติร์กไม่ให้หลบหนีไปได้” พันตรีเอ็ดเวิร์ดบอกกับร้อยตรีลีโอ

“ผู้พันขึ้นมาบัญชาการเลย อยู่ว่าง ๆ ก็เบื่อเหมือนกัน อยากไปยืดเส้นยืดสายสักหน่อย”

“ได้เลยลีโอ”

“ออกเรือได้” พันตรีเอ็ดเวิร์ดได้สั่งการให้ทหารเรือฝรั่งเศสทำการพายเรือออกจากจุดซ่อน

“ครับท่านผู้พัน ฝีพายที่อยู่ใต้ท้องเรือค่อยพายเรืออย่างช้า ๆ ก่อนที่จะกางใบเพื่อเตรียมทำศึกอีกครั้ง

เรือได้แล่นตรงไปยังสมอภูมิหน้าอ่าว

การรบเป็นไปอย่างดุเดือด

“ปัง ปัง ปัง” ทหารเติร์กบนเรือได้เล็งทหารฝรั่งเศสที่พายเรือเข้ามาในระยะกระสุน

“โอ๊ย” “ อ๊ากซ์” ทหารฝรั่งเศสเคราะห์ร้ายถูกยิงเสียชีวิตตกจากเรือ ทหารที่เหลือก็พยายามยกปืนยิงต่อสู้แต่ก็เสียเปรียบเพราะเรือโคลงไปมา ทำให้กระสุนยิงขึ้นฟ้าหรือตกห่างจากเรือ กระสุนปืนไม่สามารถทำอันตรายกับทหารเติร์กได้ ขณะที่ทหารเติร์กได้เปรียบอยู่บนเรือใหญ่กว่า โคลงน้อยกว่า ได้ทำการเล็งปืนใหญ่และเลือกยิงเรือบดของทหารฝรั่งเศส

“ตูม” กระสุนปืนได้ตกใส่เรือบดของทหารฝรั่งเศสทำให้ร่างกายทหารฝรั่งเศสฉีกขาดลอยขึ้นฟ้า เลือดกระจายเต็มท้องทะเล ทหารฝรั่งเศสหลายนายชีวิตต้องมาสังเวยกระสุนปืนใหญ่

“ฮะฮ้า ไอ้พวกฝรั่งเศสหน้าโง่ เชอะจะมาสู้กับปืนใหญ่ พวกเจ้าเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ เข้ามาก็ตายเปล่า มาอีกเลย” ยูซุป นาบี ซาอิด หัวเราด้วยความสะใจเมื่อเห็นทหารฝรั่งเศสเสียชีวิต

“พวกเราถอยก่อน” เสียงสั่งการของพันเอกเจนัวร์ได้ตะโกนบอกทหารฝรั่งเศสให้พายเรือห่างจากวิถีกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายเติร์ก

“ผู้พันสั่งถอยทำไม” พันเอกอาร์รอนตะโกนถามพันเอกเจนัวร์

“เราเสียเปรียบถอยมาก่อนเราพายเรือเข้าไปใกล้ก็ถูกไอ้พวกเติร์กมันเลือกยิง สูญเสียชีวิตทหารเปล่าๆ ไม่ได้ประโยชน์ ต้องเปลี่ยนแผนการรบผู้พันสั่งทหารพายเรือกลับเข้าฝั่งก่อน” พันเอกเจนัวร์บอกกับพันเอกอาร์รอน

“เดี๋ยวเรือของมันก็หนี ผมว่าเราล้อมไว้ห่าง ดีกว่าๆ “ พันเอกอาร์รอนเสนอความเห็น

“ให้ใครพายเรือไปรายงานท่านนโปเลียน ดูท่านจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร” พันเอกเจนัวร์ตะโกนหารือกับพันเอกอาร์รอน