บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 289)

บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 ตอนที่ (289)

 ลมเริ่มทวีความแรงมากยิ่งขึ้นฟ้าเริ่มแลบ ฟ้าแลบเป็นสายสีเงินยังกับรากไม้ สลับกับเสียงฟ้าคำรามดังลั่นท้องทะเล คลื่นเริ่มสูงขึ้นเรือประมงเริ่มโคลงเคลงไปมาผิดก่อนหน้าที่เรือแล่นอย่างราบเรียบ แต่ตอนนี้ เรือโคลงไปมา รัสตัมที่ใช้ชีวิตอยู่ในท้องทะเลทราย เมื่อมาเจอคลื่นลมแรงในทะเล ถึงกับอาเจียนออกมา หน้าของรัสตัมถึงกับเหลือง เมื่ออาเจียนออกมาหมดไส้หมดพุงเมื่อเจอคลื่นลมแรง

“เป็นอย่างไรบ้างรัสตัม” นโปเลียนถามด้วยความห่วงใย

“ไหวครับนายท่าน” รัสตัมฝืนใจตอบ

“ไปนอนพักอยู่ในห้องกับไต้ก๋งก่อนอาการเจ้าต้องนอนพักอย่าฝืน” นโปเลียนบอกกับรัสตัม

“แล้วนายท่าน” รัสตัมถามนโปเลียน

“ผมไม่เป็นไร ชินแล้วผมอยู่กับทะเลที่เกาะคอร์ซิก้า เจอพายุบ่อย” นโปเลียนบอกกับรัสตัม

 “ครับ ผมจะหักเรือเลี้ยวหนีไต้ก๋งเรือบอกกับนโปเลียน

มีเรือประมงข้างหน้ากำลังเลี้ยวหนีครับท่านกัปตันเรือรบอังกฤษบอกกับ ซิดนีย์ สมิท (Sir Sydney Smith) ที่ได้รับมอบหมาย ให้นำเรือรบมาลาดตระเวนบริเวณน่านน้ำแถบนี้ ซึ่งเซอร์ ซิดนีย์ สมิท  ได้รบกับนโปเลียนที่สมอภูมิอียิปต์ ท่านเซอร์ได้สั่งให้ทหารอังกฤษ ไปยึดเอาอาวุธ ยุทโธปรณ์ ของนโปเลียน และให้เอาบอลลูนและปืนใหญ่ที่นโปเลียนทิ้งเอาไว้ในสมรภูมิรบ ตอนที่กำลังถอยทัพจากเมืองเอเคอร์ นำบอลลูน อาวุธ ไปให้นักวิทยาศาสตร์อังกฤษทำค้นคว้าต่อยอดพัฒนาอาวุธให้ดีกว่าเดิม เหมือนกับนักวิทยาศาสตร์เยอรมันที่คิดค้นจรวดวีสอง ได้ถูกทหารรัซเซียนำนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันไปพัฒนาอาวุธให้รัสเซียเมื่อเยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง 

คงเป็นเรือประมงชาวบ้านธรรมดาเซอร์ ซิดนีย์ สมิท บอกกับกัปตัน

ท่านจะให้ผมนำเรือไปตรวจสอบหรือไม่ครับท่าน เพราะปรกติแล้ว เรือประมงไม่น่าจะออกหาปลาไกลขนาดนี้กัปตันวิลเลี่ยมบอกกับ เซอร์ ซิดนีย์ สมิท

 พายุแรงขนาดนี้ คงไม่ต้องกัปตันนำเรือหลบพายุดีกว่าเซอร์ ซิดนีย์ สมิทบอกกับกัปตัน นับว่าเป็นความโชคดีของนโปเลียนที่ไม่ต้องโดนตรวจสอบจากเรือรบอังกฤษ

ท่านคลื่นลมมันแรงมาก เรืออาจจะโดนคลื่นกระแทกเรือแตกได้ท่านควรสวมเสื้อชูชีพเอาไว้ก่อนและมีทุ่นลอยน้ำอยู่ท้ายเรือให้เอาตัวท่านไปผูกกับทุ่นลอยน้ำ ที่ทุ่นมีเหล้าดีกรีแรงติดอยู่เพื่อเรือล่ม น้ำทะเลมันเย็น ท่านจะได้มีเหล้าจิบเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นกัปตันบอกกับนโปเลียน

แล้วไต้ก๋งล่ะ

ไม่ต้องห่วงผม ผมอยู่กับทะเลเจอคลื่นลมแรงมากกว่านี้เจอเรือล่มหลายครั้งไต้ก๋งบอกกับนโปเลียน

คุณเคน โคลเอ้ รัสตัมมารัดเข็มขัดกับทุ่นลอยน้ำ ตามคำบอกของกัปตันนโปเลียนบอกกับ บักเคน พลโทหญิงโคลเอ้ และรัสตัม

บักเคนและพลโทหญิงโคลเอ้สองคนค่อยมาพยุง รัสตัมมายังทุ่นลอยน้ำโดยให้สวมเสื้อชูชีพก่อนค่อยเอาร่างรัสตัมมาติดกับทุ่นลอยน้ำ รัสตัมอาเจียนจนหน้าเหลือง เพราะเมาคลื่น เมื่อถูกบักเคนกับพลโทหญิงโคลเอ้มาช่วยพยุง

ขอบใจท่านนายพล ผมไม่ไหว ผมเมาเรือมากรัสตัมบอกกับพลโทหญิงโคลเอ้

ไม่เป็นไรผูกตัวกับทุ่นแล้วนอนพักอยู่ใกล้ทุ่นไว้ก่อนพลโทหญิงโคลเอ้บอกกับรัสตัม

ฟ้าแลบแปลบปลาบ เป็นเส้นสายไล่กันเป็นคลื่นบนท้องฟ้า ในขณะเดียวกัน คลื่นในทะเลก็เริ่มสูงเพราะลมแรง

ระวังครับท่าน คลื่นลมแรงมากไต้ก๋งเรือตะโกนบอกนโปเลียน เรือโคลงแรงมาก

ระวังครับท่าน

เรือประมงได้ชนกับหินโสโครก ทำให้เรืออัปปางไต้ก๋งเรือและลูกเรือหลายคนได้เกาะทุ่นลอยน้ำ ส่วนนโปเลียนรัสตัม พลโทหญิงโคลเอ้และรัสตัมได้เกาะทุ่นลอยน้ำ ลอยไปกระแสคลื่น

ท่านเซอร์ ซิดนีย์ สมิท ครับเรือประมงอัปปางแล้ว จะไปช่วยเหลือพวกเขาไหมกัปตันเรือถามเซอร์ ซิดนีย์ สมิท

ไม่ต้อง ปล่อยเขาเผชิญชะตาชีวิตด้วยตัวเขาเองเซอร์ ซิดนีย์ สมิทบอกกับกัปตัน

เป็นโชคชะตาของนโปเลียนที่ยังไม่ถึงฆาตหรือเป็นความอัปโชคของเซอร์ ซิดนีย์ สมิท ที่ไม่สามารถจับนโปเลียนได้ จะเป็นข่าวใหญ่ทั่วยุโรป  คลื่นในทะเลสูงมากได้พัดพาทุ่นลอยน้ำพัดเข้าหาฝั่ง

เป็นอย่างไรบ้างท่านนายพลบักเคนถามพลโทหญิงโคลเอ้

ก็ยังพอไหวพลโทหญิงแสดงธาตุแท้แห่งความทรหดออกมา หล่อนไม่เมาคลื่น

แล้วคุณเคนเป็นอย่างไรบ้างผมเฉย ๆ เรือเคยอัปปางมาแล้วครั้งหนึ่งบักเคนบอกกับพลโทหญิงโคลเอ้

แล้วเป็นอย่างไรบ้างพลโทหญิงโคลเอ้ถามบักเคน

ผมต้องลอยคอในทะเล เรือเจอพายุ แล้วถูกน้ำวนในทะเลดูดลงไป จำได้ว่าหมดสติไป มือคว้ากล่องใส่เสื้อผ้าของเลดี้ มาแชม แต่ไม่ใช่กล่องเสื้อผ้ากลับกลายเป็นปีกเครื่องบินบักเคนบอกกับพลโทหญิงโคลเอ้

ปีกเครื่องบินคืออะไรค่ะพลโทหญิงโคลเอ้ถามด้วยความสงสัย

เออ สิ่งที่บินได้เหมือนกับบอลลูนบักเคนบอกปัดไม่อยากให้พลโทหญิงโคลเอ้ถามมาก

อ๋อ กระเช้าบอลลูนพลโทหญิงโคลเอ้สรุปให้เสร็จ

ใช่ ชิ้นส่วนกระเช้าบอลลูนบักเคนเสริมให้

แล้วบอลลูนของที่ไหนทำไมลอยมาไกลจังถึงกลางทะเล พลโทหญิงโคลเอ้ไม่วายสงสัยถามบักเคน

ผมไม่ทราบเห็นแค่กระเช้าบอลลูน บักเคนบอกกับพลโทหญิงโคลเอ้ บักเคนขี้เกียจอธิบายว่าเครื่องบินคืออะไร เพราะมันต้องอธิบายยาวมาก ไม่อยากจะตอบในสิ่งที่ช่วยชีวิตตนเอาไว้ เพราะมันยากอธิบายให้สิ่งเหนือธรรมชาติ การทะลุมิติ เวลาเหลื่อมกันของเวลา ทำให้เครื่องบิน MH 370 บินทะลุมิติเข้ามาในยุคฝรั่งเศส ทุกวันนี้ยังหาตอบไม่ได้ว่าเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์หายไปไหน

You may also like...