บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 ตอนที่ (315)

“ให้ทหารควบคุมห้ามทุกคนออกจากห้องประชุม และห้ามคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาโดยเด็ดขาด” นโปเลียนสั่งการพลโทหญิงโคลเอ้

“ค่ะท่าน”

“เป็นอย่างไรบ้างท่านนโปเลียน” จอมพลมีโน่มาถึงก็ถามนโปเลียนด้วยความห่วงใย

“ผมไม่เป็นอะไร ท่านจอมพล ไปบอกทุกคนว่าผมได้รับบาดเจ็บ และ ให้ท่านจอมพล ควบคุมมือแทงห้ามทำร้ายเด็ดขาด ให้ควบคุมไปที่ค่ายทหารไม่ต้องตอบคำถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้สำหรับท่านนายพลโคลเอ้ ให้ไปบอกทหารที่รักษาการณ์ว่า การปกครองระบบเดิมเป็นอันล้มเลิก ส่วน สส และวุฒิสภา จะคงเอาไว้ แต่ให้อดทนไว้จัดการทุกอย่างเรียบร้อยก่อนค่อยให้ทหารดูแลและส่งกลับบ้าน ท่านจอมพลไปบอก สส ในห้องว่า ขออภัยที่ทำให้เกิดความไม่สะดวกไว้ให้ผมหายดีแล้ว จะประกาศการปกครองใหม่” นโปเลียนสั่งการจอมพลมีโน่และพลโทหญิงโคลเอ้

“ครับท่าน ค่ะท่าน”

“ท่านนโปเลียนเป็นอะไรมากมั๊ย” ลูเซียงแสร้งถามทหารที่ควบคุม

“ผมไม่ทราบ ขอให้ท่านอยู่ในความสงบอย่าก่อความวุ่นวาย” ทหารที่รักษาการณ์บอกกับลูเซียง ทหารที่รักษาการณ์ไม่รู้จักลูเซียงที่เป็นน้องชายของนโปเลียน

“ขอบคุณครับ” ลูเซียงถามสอบถามเสร็จก็เดินทางไปนั่ง และนึกในใจนิยายอีกบทที่ลูเซียงกำกับเพื่อช่วยให้พี่ชายกุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ใกล้จะบรรลุเป้าหมาย

“ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านในสถานที่นี่สถานการณ์การเมืองที่วุ่นวาย ทำให้ท่านนโปเลียนถูกมือมีดลอบทำร้าย ผมต้องขอโทษทุกท่าน ที่ต้องควบคุมสถานการณ์ให้สงบ ท่านนโปเลียนขอร้องให้พวกท่านอยู่ในความสงบ อย่าก่อความวุ่นวายให้นั่งประจำที่ และจะมีทหารคอยส่งท่านไปถึงบ้าน ส่วนสถานะของท่าน ก็ยังคงเดิม ขอบคุณ” พลโทอาร์รอน กล่าวบอกสมาชิกสภาที่เข้าร่วมประชุม

********************

เหตุการณ์นโปเลียนถูกลอบทำร้ายเป็นข่าวใหญ่ดังไปทั่วยุโรป ผู้คนทั่วยุโรปกล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ความวุ่นวายในประเทศฝรั่งเศสคงจะจบลงด้วยความยุ่งยาก ฝรั่งเศสคงต้องเสียดินแดนที่ตนยึดครองให้กับสเปน ปรัสเซีย อิตาลี อังกฤษ แน่นอน

“เป็นอย่างไรบ้าง มีข่าวอะไรไหมท่านจอมพล” นโปเลียนถามจอมพลมีโน่ ที่มาหารือกับนโปเลียนที่บ้านพักหลังเหตการณ์ลอบทำร้ายผ่านพ้นไปหนึ่งสัปดาห์

“ข่าวดังไปทั่วยุโรปครับท่าน” จอมพลมีโน่บอกกับนโปเลียน

“อืมส์ หวังว่าการเปลี่ยนแปลงการปกครองจะทำให้ฝรั่งเศสสงบ ประชาชนจะได้ทำมาหากินได้ไม่ต้องวุ่นวายกับการประท้วงอีกต่อไป” นโปเลียนบอกกับจอมพลมีโน่

“ครับท่าน”

“ท่านให้ใครไปบอก ท่านโณแซฟ ซีแยส์ ให้มาพบผมวันพรุ่งนี้” นโปเลียนบอกกับจอมพลมีโน่

“ครับท่าน”

“เป็นอย่างไรบ้างท่านนโปเลียน” โณแซฟ ซีแยส์ ถามนโปเลียน

“ผมไม่เป็นอะไรมาก ขอบคุณที่ผมเชิญท่านมาวันนี้อยากหารือ ผมมีความคิดอยากให้คงระบบสภาเอาไว้แต่ในส่วนของคณะกรรมการดิเร็กตัวร์ ผมว่าเพื่อความสะดวกและมีประสิทธิภาพในการบริหารงานไม่ซับซ้อนและอุ้ยอ้ายผมมีความคิดจะเปลี่ยนจากคณะกรรมการดิเร็กตัวร์เป็นคณะกงสุล ผมต้องการคงระบอบการปกครองที่กิจกรรมต่าง ๆ ต้องผ่านการลงมติจากคณะผู้แทนราษฎรเหมือนเดิม” นโปเลียนเสนอความเห็น

“แล้วแต่ท่านนโปเลียน” ท่านโณแซฟ ซีแยส์ ตอบนโปเลียน

“ขอบคุณที่เข้าใจผม ผมมีความคิดตำแหน่งประธาน ก็คงเป็นท่านเหมือนเดิม ท่านเป็นเบอร์หนึ่ง ผมจะเป็นเบอร์สอง ส่วนเบอร์สาม เพื่อไม่ให้ประชาชนมองว่าผมรวบอำนาจ ผมจะตั้งคนที่ไม่ค่อยชอบผมมาเป็นกรรมการกงสุล ด้วย โรเฌ่ร์ ดือโกส์ เพื่อให้ภาพดูไม่น่าเกลียด” นโปเลียนบอกกับโณแซฟ ซีแยส์

“แล้วแต่ท่านนโปเลียนก็แล้วกัน ผมไม่มีปัญหาต้องขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจผมให้เป็นประธาน ผมยินดีรับตำแหน่ง” โณแซฟ ซีแยส์ บอกกับนโปเลียน

หลังจากโณแซฟ ซีแยส์ กลับไปจอมพบมีโน่ได้มาหารือกับนโปเลียน “ท่านครับ ได้ข่าวว่าท่านตั้ง โรเฌ่ร์ ดือโกส์ เป็นคณะกงสุล เพราะเหตุใดท่าน ดือโกส์ ไม่ชอบท่าน ทำไมท่านต้องตั้งมาเป็นหอกข้างแคร่ และผมเคยได้ยินคุณเคนเล่าว่า ที่ไปอียิปต์กับท่าน เพราะถูก ดือโกส์ ยึดทรัพย์ เกิดคุณเคนทราบข่าวคงไม่พอใจแน่นอน” จอมพลมีโน่บอกกับ

นโปเลียนด้วยความกังวล

“ขอบคุณท่านจอมพล มันเป็นนิยายอีกฉากเพื่อให้ภาพการเมืองออกมาดูดี อำนาจอยู่ที่ผม ดือโกส์ จะทำอะไรได้ ให้ดำรงตำแหน่งต่อก็บุญแล้ว ผมคิดว่าไม่เป็นปัญหา ทุกคนอยากอยู่ในตำแหน่งมีอำนาจ แม้บางครั้งจะไม่มีอำนาจที่แท้จริงก็ตาม แต่ก็ได้เสวยสุข มีเงินใช้ ผมว่า  ดือโกส์ ไม่ปฎิเสธแน่นอน ท่านจอมพลว่างก็คุยกับคุณเคนไม่ต้องกังวลเรื่องที่ผ่านมา ถ้า ดือโกส์ จะมีปัญหากับคุณเคน ผมจะจัดการเอง แต่ผมคิดว่า ดือโกส์ฉลาดพอคงไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม แค่เป็นหุ่นเชิดเท่านั้น” นโปเลียนบอกกับจอมพลมีโน่

          ********************************

วันประชุมสภานัดแรกของคณะกรรมการกงสุล โดย นโปเลียน, โฌแซฟ ซีแยส์ และโรเฌ่ร์ ดือโกส์ นับเป็นจุดเริ่มต้นระบบการปกครองโดยคณะกงสุล เป็นฉากหนึ่งในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส

สส ทั้งสภาสูงและสภาล่างต่างมาร่วมประชุมโดยคึกคัก บริเวณที่ประชุม กองกำลังรักษาพระนครยืนรักษาการณ์อย่างเข้มงวด โดยมี พันโทอาร์รอน เป็นผู้บังคับบัญชา ลูเซียงได้เดินทางมาร่วมประชุมด้วย

หลังจากพิธีเปิดประชุม นโปเลียนได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ “ประชาชนชาวฝรั่งเศสที่รักทุกคน การปฏิวัติยังคงยึดมั่นบนหลักการเดียวกันกับเมื่อมันได้เริ่มต้นขึ้น นั่นคือ การปฏิวัติสิ้นสุดลงแล้ว” “Citoyen,la Révolution est fixée aux principe qui l’avait commencée elle est finie!”

“ต่อไปฝรั่งเศสจะก้าวต่อไปด้วยความหวังสู่ความรุ่งเรือง บ้านเมืองต้องสงบสุข ประชาชนจะได้กินอิ่ม มีความยุติธรรมเป็นที่ตั้ง” นโปเลียนกล่าวต่อบรรดา สสทั้งสภาบนและสภาล่าง หลังจากนโปเลียนกล่าวจบ สส ทั้งหมดลุกขึ้นยืนและปรบมือให้กับนโปเลียนอย่างยาวนาน

“ฝรั่งเศสจงเจริญ” เสียงดังกึกก้อง

นโปเลียนได้เดินกลับไปนั่ง และประธาน โฌแซฟ ซีแยส์ ได้กล่าวต่อไปว่า “วันนี้ เป็นวันประชุมวันแรก เพื่อให้เกิดความยุติธรรมโดยเร็ว ผมจะตั้งคณะกรรมการร่วมทั้งสภาสูงและสภาล่างทำการพิจารณา ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันนี้”

                   ***********************        

ที่ทำการของกลุ่มพิทักษ์ราชบัลลังค์ เป็นการหารือถึงการดำรงดำแหน่งของนโปเลียน นิโคล่าสมาชิกของกลุ่มพิทักษ์ราชบัลลังค์ได้เสนอปัญหานโปเลียนขึ้นมา

“ท่านสมาชิก นโปเลียนเป็นกรรมการกงสุลคนที่สอง แต่อำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือนโปเลียน แผนการของพวกเราจะทำอย่างไรดี” นิโคล่าได้บอกถึงปัญหาของนโปเลียนกุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

“ผมยังสงสัยไม่หายข่าวมันทำไมกระจายไปทั่วฝรั่งเศสและยุโรปอย่างรวดเร็ว ทุกคนได้รับทราบข่าว ๆ พร้อมกัน มันต้องมีใครอยู่เบื้องหลังแน่” ลูกาสมาชิกอีกคนได้บอกถึงกระแสความนิยมในตัวนโปเลียนที่โด่งดังทั่วฝรั่งเศสและยุโรป

“ข่าวรั่วแน่นอนที่ว่าจะทูลเชิญพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 มาขึ้นครองราชย์ฟื้นฟูระบอบกษัตริย์”  คาวิน ไคล์ แสดงความคิดเห็นออกมา

“ผมเห็นด้วย” เรมี่สนับสนุนความคิดของ คาวิน ไคล์

“ผมได้ไปกราบทูลเชิญพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ที่รัสเซีย ขอให้พระองค์กลับมาครองราชย์เป็นประมุขของฝรั่งเศส พระองค์ก็ตอบตกลง พระองค์มีความปราถนาอย่างยิ่งที่จะเสด็จกลับฝรั่งเศส”  เรมี่ได้บอกสมาชิกที่ร่วมประชุม

พระเจ้าหลุยส์ทรงถืออิสริยยศเคานต์แห่งพรอว็องส์ในฐานะพระอนุชาของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส ในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1792 สภากงว็องซียงแห่งชาติเลิกสถาบันพระมหากษัตริย์และถอดถอนพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ทรงสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระนัดดาในฐานะพระมหากษัตริย์ในพระนาม และเสด็จลี้ภัยไปอยู่ที่ อังกฤษ ปรัสเซียและ รัสเซีย