บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 322)

“ก็สบายดีค่ะ นางโจเซฟินใส่เสื้อนำสมัย  สมกับคนในสังคมชั้นสูง หลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศส นักออกแบบได้เปลี่ยนแนวคิดการออกแบบเครื่องแต่งกายแนวใหม่เพื่อสอดคล้องกับยุคสมัย นิวคลาสสิคซีซัม (New Cassicism) หมือนกับการแต่งกายของกรีกและโรมันในยุคท้าย ๆ คือ เสื้อมี ลักษณะเอวสูงขึ้น ไปถึงอก ทรงหลวม ๆ มีโบว์ตกแต่งใต้อก คอกว้าง เลิกใช้เครื่องรัดทรง ใช้ผ้า เนื้อบางเบา สวมรองเท้าสานเตี้ย ทำให้บักเคนเห็นสร้อยคอนางโจเซฟินได้ชัดตาคล้ายเพชรบลูไดมอนด์ บักเคนถึงกับเสียมารยาทขยี้ตา ด้วยความไม่แน่ใจ

“เป็นอะไรค่ะคุณเคน” นางโจเซฟินถามด้วยความสงสัย

“ ต้องขอโทษด้วยครับคุณโจเซฟิน ผมว่าผมตาฝาดไปครับ”

 “อ้าวคุณเคน มาด้วยหรือครับ” รัสตัมอุทานด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นบักเคน

“ผมมาขอพบท่านนโปเลียนและเห็นคุณโจเซฟินมารอพบ

ท่านนโปเลียน ผมจึงชวนคุณโจเซฟินเข้ามาพบด้วยกัน”

บักเคนและกอมบาซาเรนางโจเซฟินได้เดินเข้าไปพบนโปเลียนพร้อม ๆ กัน โดยมีรัสตัมเดินตามข้างหลัง

“สวัสดีครับท่านนโปเลียน” กอมบาซาเรและบักเคนเอ่ยปากทักทายนโปเลียน เมื่อมองเห็นนโปเลียนกำลังลุกเดินจากเก้าอี้ในห้องออกมารับ นโปเลียนถึงกับอึ้งไปนิดเมื่อเห็นนางโจเซฟินเดินตามกอมบาซาเรและบักเคนเข้ามา ด้วยมารยาท นโปเลียนก็ไม่พูดอะไรนอกจากเอ่ยทักทาย  กอมบาซาเรและบักเคน

“สวัสดีท่านกอมบาซาเรและคุณเคนขอบคุณที่ให้เกียรติผมมาพบที่บ้าน” นโปเลียนเอ่ยทักทายทั้งคู่ และเอ่ยปากกับนางโจเซฟิน

“มาด้วยหรือ” นโปเลียนเอ่ยทักทายอย่างเสียไม่ได้

เชิญนั่งทุกคน นโปเลียนเอ่ยชวนทุกคนนั่งที่โต๊ะรูปไข่

“ที่ผมให้ท่าน กอมบาซาเรและคุณเคนมาพบวันนี้อยากทราบความคืบหน้าเรื่องร่างกฏหมายรัฐธรรมนูญและกฏหมายแพ่งคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว”

“ขอบคุณครับท่านที่ให้ผมมารายงานความคืบหน้า จากการหารือกันในคณะทำงาน ก็มีความคืบหน้า ผมพอขอสรุปคร่าวในภาพรวามของกฏหมายรัฐธรรมนูญ ประการแรก ประชาชนชาวฝรั่งเศสที่บรรลุนิติภาวะเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ที่อาศัยอยู่ในฝรั่งเศสและในเขตปกครองตนเองโพ้นทะเล มีสิทธิเลือกตั้ง และต้องเสียภาษีไม่ว่าจะอยู่ในประเทศ หรือเขตปกครองตนเองทุกคน เมื่อ มีสิทธิเลือกตั้งผู้แทนทั้งระดับชาติและเลือกตั้งผู้แทน ท้องถิ่น โดยผู้แทนที่ถูกเลือกจะคิดสัดส่วนจากจำนวนประชากรในพื้นที่ร้อยละ 10 โดยคะแนนที่ได้ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ถ้าผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ออกมาเลือกตั้งไม่ถึง ร้อยละ 40 ให้ทำการเลือกตั้งใหม่ และให้ผู้แทนท้องถิ่นเลือกตัวแทนของตนหนึ่งในสิบโดยถ้ามีเศษผู้แทนไม่ถึงร้อยละ 10 ให้ปัดเศษเลือกให้เป็นผู้แทนระดับประเทศเพิ่ม ให้ครบตามเงื่อนไข” กอมบาซาเรอธิบายให้นโปเลียนฟัง

“อืมส์ผมไม่เข้าใจ ในการปัดเศษถ้าการเลือกตั้งคิดร้อยละ 10 ของผู้มีสิทธิ ถ้าไม่ถึง ให้ปัดเศษ เป็นแนวคิดของใคร” นโปเลียนถามด้วยความสงสัย

“ความคิดคุณเคนครับท่าน เสนอในการประชุม” กอมบาซาเรบอกกับนโปเลียน

 “คุณเคนได้แนวคิดนี้มาจากไหน” นโปเลียนถามด้วยความสงสัย

“สยามครับ” บักเคนบอกนโปเลียน

“โอพระเจ้า สยามมีความคิดล้ำหน้ามาก การเลือกตั้งให้มีการปัดเศษผู้แทน” นโปเลียนบอกด้วยความทึ่ง

“ครับท่าน การเลือกตั้ง ต้องมีการนับบัตรเลือกตั้ง ต้องให้ตรงกับผู้มาเลือกตั้ง ถ้าหน่วยเลือกตั้งหน่วยไหนนับคะแนนแล้ว คะแนนไม่ตรงกับจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่เรียกว่าบัตรเขย่ง ให้เลือกตั้งเฉพาะหน่วยเลือกตั้งนั้น” บักเคนอธิบายเพิ่มเติม

“นอกจากนี้สภาก็แบ่งออกเป็นสามสภา สภาสูง เลือกตั้งจากผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป มีจำนวน 24 คนโดยเลือกตั้งทั่วประเทศและเขตปกครองตนเองของฝรั่งเศสในโพ้นทะเล สภาสูงหรือสภาถาวร ผู้ได้รับเลือกตั้งจะอยู่ในตำแหน่งตลอดชั่วชีวิตรับเงินเดือนเป็นเงินปี ส่วนสภาที่สอง สภาตุลาการ ประกอบด้วยสมาชิก 100 คน อายุต้องไม่ต่ำกว่า 30 ปี มีความรู้กฎหมาย การปกครอง  ครู อาจารย์ นักบวช หรืออย่างน้อยเคยเป็นผู้ปกครองเช่นหัวหน้าหมู่บ้าน มาก่อนอย่างน้อย 5 ปีถึงมีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง และให้อยู่ในตำแหน่งคราวละ 5 ปี โดยหนึ่งในห้าต้องเลือกให้ออกโดยสภาตุลาการ แต่มีสิทธิลงสมัครเข้ามาใหม่ สภาตุลาการจะเลือกมาจาก สภาผู้แทนราษฎรและสภาสูงเพื่อไม่ให้เป็นภาระการเลือกตั้งแก่ประชาชน  และสภาสุดท้ายสภาผู้แทนราษฎรหรือ สภานิติบัญญัติ ประกอบด้วยสมาชิก 300 คน ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี อยู่วาระ 4 ปี และให้เลือกตั้งใหม่” กอมบาซาเร อธิบาย

“ใช้ได้”

“ท่าน ที่ประชุมยังไม่ยุติ เพราะมีบางประเด็นอยากจะมาหารือท่าน ตามข้อเสนอของคุณเคน ผมเห็นว่าไม่เลว เลยต้องมาฟังความเห็นของท่านก่อน”

“ข้อเสนออะไร” นโปเลียนถามกอมบาซาเร

“ให้คุณเคนอธิบายดีกว่าครับ”

“ว่าไปคุณเคน แนวคิดของคุณเคนแปลกใหม่เสมอ ผมไม่แปลกใจ” นโปเลียนบอกกับกอมบาซาเร

“ขอบคุณท่าน ผมเสนอให้ สภาทั้งสามเมื่อเลือกตั้งเข้าไปแล้ว ถ้าไม่ทำงาน หรือมีเรื่องเสื่อมเสีย อยากจะให้มีการถอดถอนจากตำแหน่ง โดยให้ประชาชนมาร้องเรียนกันเกิน ห้าหมื่นคนเข้าชื่อกันถอดถอนสมาชิกสภาทั้งสามได้ เมื่อมีการเสนอชื่อถอดถอนให้มีการลงมติถอดถอนจากสภาทั้งสาม โดยต้องได้เสียงเกินกว่า 60 เปอร์เซนต์ของ สมาชิกสภาในแต่ละสภาทั้งสามสภาถึงจะไม่ถูกถอดถอน” บักเคนอธิบายให้นโปเลียนและกอมบาซาเรฟัง

“แปลกใหม่ ไม่เคยได้ยิน” โจเซฟินซึ่งนั่งฟังเงียบ  ๆ เอ่ยขึ้นมา

You may also like...