บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 45)

บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 45)

โซฟีได้เล่าเรื่องของเธอต่อไป ทุกคนนั่งฟังอย่างสนใจ

“เรือที่ช่วยชีวิตพวกเรากำลังจะเดินทางไปเฮติและบนเรือ ตูส์แสงต์ โชคดี ได้พบกับ ซิยา บองกา เพื่อนเก่า ของตูส์แสงต์ ที่ยึดอาชีพเป็นหมอผี ได้เดินทางกลับจากอัฟริกาพอดี เมื่อกัปตันเรือรู้ว่า เราสองคนเป็นเพื่อนกับหมอผี ก็ให้ความเกรงใจ ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ต้องตกเป็นทาสของกัปตันเรือไม่รู้จะถูกขายไปที่ใดอีก เราได้อาศัยเรือสินค้ากลับไปเฮติ”

“หลังจากนั้นพวกเราก็เดินด้วยเท้าเพราะไม่อยากให้ใครรู้โดยเฉพาะ คนพื้นเมืองที่เกลียดหมอผีมาก อาจจะทำร้ายพวกเรา ต้องเดินหลบซ่อนเพื่อกลับไปอยู่ในไร่อ้อยของนายฝรั่งชาวโปรตุเกส ที่จ้างไปอาศัยอยู่กับเพื่อนของ ตูส์แสงต์ เมื่อเพื่อนเห็นหน้าก็ดีใจ ที่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้พบกันอีก เราสองคนได้พักอาศัยอยู่กับเพื่อนที่เป็นหมอผี ซึ่งอาชีพได้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษจากอัฟริกา”

 โซฟีเล่าต่อไปว่า “เพื่อนของ ตูส์แสงต์ เป็นหมอผีที่ได้รับ การยอมรับจากพวกคนผิวขาวและทาสในไร่อ้อย พวกเราอาศัยอยู่ประมาณ 2 ปี แล้ว ตูส์แสงต์ ได้เก็บรวบรวมเงินจากการทำงานในไร่กาแฟ และฉันก็ทอผ้าขาย เมื่อได้เงินพอสมควรก็ได้ไปซื้อที่ดินทำไร่กาแฟ พวกเราแต่งงานกันโดยมีบาทหลวงมาทำพิธีให้ หลังจากแต่งงานได้สองปีฉันก็มีลูกคนแรก ฉันต้องทำงานในไร่กาแฟและซื้อไร่อ้อยเพิ่มเติมอีก การทำไร่อ้อยนี้เหนื่อยมาก แรงงานก็หายาก พวกเราไม่อยากใช้แรงงานทาสมากนัก เพราะไม่อยากให้มีการซื้อขายคนที่ถูกจับมาเป็นทาสเช่นเดียวกับสัตว์ ชีวิตทาสบางครั้งยังแย่กว่าสัตว์เลี้ยงของนายทาส”

“งานในไร่อ้อย ซิยาบองกา ซึ่งเป็นหมอผีรับปากว่าช่วยเหลือเรื่องแรงงานอย่างลับ ๆ ซึ่งครั้งแรก ฉันก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือเรื่องแรงงานอย่างไร ฉันก็แปลกใจ แต่ซิยาบองกา บอกว่าจะใช้แรงงานไม่ผิดกฎหมายและไม่ต้องจ่ายค่าแรงแพง เพียงให้กินข้าวต้มก็พอพอฟังครั้งแรกก็ไม่เชื่อมันจะเป็นไปได้อย่างไรแต่ซิยาบองกา ก็ยืนยันว่าทำได้ นายจ้างผิวขาวถึงยอมรับตนเอง และทาสที่ทำงานในไร่อ้อยก็ยอมรับตนเอง ที่ทำให้พวกทาสไม่ต้องทำงานหนักมาก     ถ้าไม่มีซิยาบองกา พวกทาสต้องทำงานหนักกว่าเดิมเป็นสิบเท่า”

“ห๊า”

“อะไรนะ”

“มีด้วยเหรอ มีหุ่นยนต์หรือใช้เวทมนต์คาถาให้อ้อยมันล้มเอง”

ทุกคนฮือฮา ส่วนบักเคนยิ่งแปลกใจ

“มันเป็นไปได้อย่างไรโซฟี น่าประหลาดใจมาก” บักเคนกล่าวขึ้น

โซฟีได้เล่าต่อว่า ซิยาบองกาได้บอกให้ ตูส์แสงต์ ให้คอยสืบข่าวในหมู่บ้านไกล จากไร่อ้อยว่ามีคนในหมู่บ้านเสียชีวิตบ้างไหม โดยเฉพาะผู้ชาย ถ้ามีให้บอกด้วย พอพวกเราได้ยินก็แปลกใจว่า  ซิยาบองกาจะทำอะไร ซึ่งซิยาบองกาบอกว่าไม่มีอะไรไม่ได้ไปจับใคร แต่จะเชิญเอาร่างของคนตายทำพิธีทางไสยศาสตร์ที่เรียกว่า วูดู เพื่อปลุกวิญญาณให้ลุกขึ้นมารับใช้”

โอ้ พระเจ้าช่วย ใช้แรงงานผี มันน่ามหัศจรรย์ ไม่น่าเป็นไปได้ ทุกคนที่ได้ยินทำสีหน้าแปลกใจและไม่ยอมเชื่อในเรื่องของโซฟีเล่า มีแต่บักเคน ที่เชื่อเรื่องพวกนี้แต่ก็ฟังเฉย ๆ เพราะเคยอ่านเจอ ในหนังสือผีดิบซอมบี้มีจริงหรือ สมัยมาทำงานที่กรุงเทพ 

โรแบสปิแอร์รู้สึกแปลกใจและมีสีหน้าไม่เชื่อ ว่ามีด้วยเหรอ ปลุกผีมาเป็นแรงงาน ซึ่งเป็นแรงงานเถื่อนและผีมันจะทำงานอย่างไร ได้แต่สงสัยและรอฟังคำอธิบายจากโซฟี ซึ่งโซฟีได้เล่าต่อ “เมื่อได้ข่าวคนตายในหมู่บ้านไกล ๆ พอญาติพี่น้องของคนตายนำศพไปฝัง ซึ่งหลังจากตายแล้วก็ฝัง ซิบองกากับทาสในไร่อ้อยเมื่อทราบข่าวกลางคืนจะแอบไปขุดศพคนตายแล้วรีบนำกลับมาที่ไร่

ซิบองกาจะทำพิธีไสยศาสตร์เรียกดวงวิญญาณของคนตายให้กับมาสิงร่างแล้วผีดิบก็จะทำงานในไร่อ้อยตอนกลางคืน กลางวันจะนอนเพราะไม่ถูกกับแสงแดด” 

ทุกคนฟังปากอ้าตาค้างในเรื่องเล่า ทุกคนไม่เชื่อก็ไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริง เพราะออกจากปากโซฟีซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยขบวนการลับฟรีเมสัน

“เขาเรียกว่าผีดิบซอมบี้” บักเคนบอกทุกคน

“แล้วมันเป็นคนศพจริงหรือ” ปิแอร์ถามบักเคน

“ไม่ใช่คนตายไปแล้วแต่มันเป็นการเล่นกลของหมอผีเพื่อนของโซฟี

“อะไรนะ” ทุกคนเอ่ยพร้อมกัน

“ผมเคยได้ยินคนเขาเล่าให้ฟังศพคนตายไม่มีวันลุกขึ้นมาทำงาน มีแต่ประเพณีเรียกดวงวิญญาณกลับบ้านของคนจีน ที่ไปตายไกล ๆ บ้าน จะมีหมอผีไปเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน ด้วยการติดกระดาษยันต์ที่หน้าผากผีก็จะกระโดด ตามหมอผีที่จะสั่นกระดิ่งนำร่างของคนตายกลับบ้าน พิธีกรรมศพดังกล่าว นอกจากนี้  ที่หมู่บ้านทานาโทราจาและหมู่บ้านมามาซา ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนบทห่างไกลในอินโดนีเซีย ผู้คนที่นี่ เมื่อไรที่มีการตายเกิดขึ้น จะมีการทำพิธีลี้ลับปลุกศพให้ลุกขึ้นมาเดินกลับบ้านเองได้ ด้วยความเชื่อที่ว่า ศพจะต้องเดินกลับมาเพื่อรับการฝังในบ้านเกิดของตัวเอง             ในสภาพที่เหมือนกับมีลมหายใจทุกอย่าง เพื่อได้พบกับญาติพี่น้องอีกครั้ง และในกรณีที่มีคนเสียชีวิตในที่ที่ห่างไกลบ้านมาก บางครั้งจะมีการฝังศพเอาไว้ก่อน”

“เมื่อผ่านไปอีกหลายปีก็จะมีการขุดศพขึ้นมาแต่งองค์ทรงเครื่อง คล้ายกับชุบชีวิตศพ จากนั้น ก็จะมีการทำพิธีปลุกศพ   ลุกขึ้นมาให้ค่อย ๆ เดินกลับบ้านช้า ๆ โดยไม่มีการคลุมใบหน้าศพเลยแม้แต่น้อย ซึ่งไม่ว่าที่ที่ศพเสียชีวิตจะเป็นที่ไหน ห่างไกลบ้านเท่าไรก็ตาม ก็จะต้องมีการทำพิธีพาศพเดินกลับบ้านอย่างนี้ หากใครก็ตามที่อุ้มศพขึ้นโดยตรง เชื่อกันว่าจะทำให้คนคนนั้นล้มป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุระหว่างทาง และไม่สามารถแห่ศพกลับบ้านได้ต่อไป” 

“บรรดาญาติพี่น้องและผู้นำในการทำพิธีที่กำลังพาศพกลับบ้าน จะมีการเตือนผู้คนที่เดินสวนไปมาระหว่างทางด้วยว่า ห้ามให้พวกเขาพูดกับศพ ญาติพี่น้องจะนำศพเดินด้วยทางที่ไม่มีใครเดิน จะได้เงียบสงบ”

“พระเจ้าช่วย เรื่องของคุณเคน มหัศจรรย์ยิ่งกว่าเรื่องของโซฟีอีก” ปิแอร์มองบักเคนด้วยสายตาชื่นชมที่บักเคน มีความรู้แปลกใหม่มากกว่าพวกตน 

          บักเคนได้เล่าต่อไปอีกว่า “คนที่ตายผมคิดว่าซิยาบองกา   แอบเอายาสั่งไปให้กิน”

ผมขอถามโซฟี ส่วนมากคนที่ตายจะเป็นหนุ่มฉกรรจ์ใช่ไหม” 

“ใช่ค่ะ อ้าวทำไมคุณเคนรู้ล่ะ”โซฟี ตอบบักเคน

“มันไม่มีอะไรแค่ยาสั่งเมื่อมันออกฤทธิ์ก็เหมือนกับตาย ญาติพี่น้องนึกว่าตายไปแล้ว ก็นำไปฝัง เมื่อยาสั่งหมดฤทธิ์ คนที่ตายเขาจะฟื้นมาเอง และถ้าหลุมที่ฝังไม่ลึกก็จะตะเกียกตะกายขึ้นมาจากหลุมเองได้ แต่คนที่รู้ก็คือพวกหมอผี ที่ทำยาสั่งแล้วก็แอบไปขุดศพมาทำเป็นผีดิบซอมบี้ ซึ่งผีดิบซอมบี้ เป็นคนไร้สติ ไม่มีความทรงจำใด ๆ หลงเหลืออยู่ เนื้อเยื่อสมองถูกทำลายจากยาสั่ง จะกลายเป็นทาสคอยรับใช้ตลอดไป”

“ผมคิดว่า ซิยาบองกาน่าจะรู้สูตรยาสั่ง ซึ่งยาสั่งเป็นสมุนไพร ที่จะรู้กันเฉพาะหมอผี เท่านั้น” อ้าวถ้ายังไม่ตายแล้วทำไม่จำอะไรไม่ได้ แล้วเมื่อฟื้นขึ้นมาฟังคำสั่งหมอผีได้อย่างไร” ปิแอร์ถามบักเคน

“หมอผีจะให้กินแตงกวาซอมบี้ (Zombie Cucumbers)  ซึ่งทำจากพืชสมุนไพร และมีสารพิษจากสัตว์บางชนิด สารพวกนี้คนที่กินยาสั่งเข้าไปจะเกิดความจำเสื่อม และถ้ากินมาก ๆ จะทำให้กลายเป็นคนไร้ความนึกคิด จดจำอะไรไม่ได้เลย เพราะเซลล์สมองและประสาทบางส่วนถูกทำลายและทำให้คนกลายเป็นซอมบี้  ศพคืนชีพ ทาสผู้ซื่อสัตย์ กรรมกรที่ทำแต่งานอยู่ในไร่อ้อยโดยไม่หวังสินจ้างรางวัล หรือแม้แต่คำชมจากใคร”

“โอ๊ะพระเจ้า พวกเราทำบาปกับคนไร้ความผิด” โซฟีถึงกับร้องไห้เสียใจออกมา

“ไม่เป็นไรมันผ่านไปแล้ว ไม่รู้ไม่ผิด” บักเคนบอกโซฟี

“ถ้ายังงั้นเราติดต่อหมอผีแล้วเอายาสั่งจากเฮติมาให้ทหารของพระเจ้าหลุยส์กินดีไหม พวกเราจะได้มีกำลังเพิ่มขึ้นในการก่อการปฏิวัติฝรั่งเศส” โรแบสปิแยร์เอ่ยขึ้น

 

 “ไม่เอาผีดิบซอมบี้ พวกเราจะปฏิวัติด้วยมือสองข้างพวกเราไม่อาศัยผีดิบซอมบี้มาร่วมต่อสู้ พวกเราจะต่อสู้ด้วยหัวใจของ มวลมหาประชาชน เพื่อเสรีภาพ” โซฟีบอกโรแบสปิแยร์ 

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *