บักเคนทะลุมิติภาค 1 ตอนที่ (102)

บักเคนทะลุมิติภาค 1 ตอนที่ (102)

สภาประชาชนได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นางซูซาน มารัต (Susan Paul Marat) มารดาของ พอล มารัต (Jean-Paul Marat) ที่ถูก นางสาวชาร์ล็อตต์ คอร์เดย์ (Charotte Corday) ฆ่าตาย โดยทนายท้องถิ่นได้ยื่นฟ้อง นางสาวชาร์ล็อตต์ คอร์เดย์ (Charotte Corday) เป็นจำเลยข้อหาเจตนาฆ่าคนตาย ซึ่งสภาประชาชนได้พิจารณาหลักฐานและได้ตัดสินให้ประหารชีวิตนางให้ตายตกไปตามกันโดยให้ประหารชีวิตพรุ่งนี้เวลาตีสี่

การดำเนินคดียังดำเนินต่อไปพระนางมารี อังตัวเนต หลังจากถูกควบคุมตัวมาด้วยรถเกวียนบรรทุกนักโทษมาถึงศาลากลาง  คอมมูน เพื่อพิจารณาคดี โดย ฟูกิเยร์ ได้ยื่นฟ้องข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับประเทศมหาอำนาจต่างชาติโดยเฉพาะประเทศออสเตรียที่บุกฝรั่งเศส

“ไม่จริง ดิฉันไม่ใช่คนเช่นนั้น ฉันอภิเษกสมรสกับพระเจ้าหลุยส์ ก็เป็นคนฝรั่งเศส เรื่องการเมืองดิฉันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวด้วย อย่าปรักปรำคนบริสุทธ์อย่างฉัน” พระนางมารี อังตัวเนต ได้กล่าวแก้ตัวโดยไม่มีทนายแก้ต่างแต่อย่างใด

โรแบสปิแยร์ ได้พูดต่อหน้าคณะกรรมการสภาประชาชนที่กำลังไต่สวนพระนางมารี อังตัวเนต

“ท่านเป็นตัวการสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการทรยศต่อพระเจ้าหลุยส์ ซึ่งจากหลักฐานเอกสารที่ข้าได้อ่านดูคำฟ้องร้องแทนประชาชนชาวฝรั่งเศส ปรากฏว่า ในบรรดาราชินีทั้งหลาย เป็นต้นว่า เมสซาลีน บรูเนอโอ เฟรเดกองด์ และมารี เดอ เมดิซี                   โดยพระนางแคทเธอรีน เดอ เมดิชิ เป็นพระราชินีต้นกำเนิด ตำนานมืด” (The Black Legend) ของ พระราชินีผู้ชั่วร้าย ทรงถูกประณามว่าเป็น (Machiavellian Renaissance Prince) ผู้ป้อนความกระหายอำนาจด้วยการอาชญากรรม, การวางยาพิษ และบางที  ก็ถึงกับใช้อำนาจเวทมนตร์ อากริพพา โดบิน (Agrippa d’Aubigné) ที่เมื่อก่อนเรายอมรับว่านางเป็นราชินีของฝรั่งเศส ผู้ซึ่งมีชื่อเสื่อมเสียไม่อาจลบล้างได้จากประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสของเรา เมื่อเปรียบเทียบกับมารี อองตัวเนต หญิงหม้ายของพระเจ้าหลุยส์ เป็นผู้มีความละโมบเป็นที่สุด และเป็นหายนะอันใหญ่หลวงของชาวฝรั่งเศสยิ่งกว่า เคทเธอลีน เดอ เมดิซีมากนัก”

กิเยร์-ทังวิลล์ ได้เรียกร้องต่อสภาประชาชน

“เรียนท่านสมาชิกสภาประชาชนที่เคารพ ข้าฟูกิเยร์ ทังวิลล์ ขอเรียกร้องให้สภาประชาชนได้ลงมติประหารชีวิตพระนางมารี  อังตัวเนต เสีย เพราะนางเป็นศัตรูอย่างร้ายกาจต่อประเทศฝรั่งเศสมากกว่าผู้ใดในประวัติศาสตร์ และข้าขอถามต่อท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติสักสี่คำถามว่าคำถามที่ข้าผู้น้อยได้ถามท่านว่าจริงหรือเท็จ

1. จริงหรือไม่ที่ได้มีการคบคิดและมีการและเปลี่ยนข่าวกรองกับประเทศมหาอำนาจต่างชาติ และศัตรูอื่น ๆ นอกจากฝรั่งเศส โดยที่การคบคิดและข่าวกรองดังกล่าวนั้นมีจุดมุ่งหมาย  ให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ให้พวกนั้นเข้ามาในดินแดนฝรั่งเศส และให้พวกนั้นพัฒนาอาวุธได้ และเตรียมการช่วยเหลือพระเจ้าหลุยส์ 2. พระนางมารี อังตัวเนต แห่งออสเตรีย เชื่อว่านางได้มีส่วนร่วมมือกับการคบคิดและสนับสนุนการข่าวกรองดังกล่าวหรือไม่  3. จริงหรือที่มีแผนการสมรู้ร่วมคิดการจัดเตรียมอาวุธและก่อวินาศกรรมและแผนข่าวโคมลอยที่พยายามจุดชนวนให้เกิดสงครามกลางเมืองภายในสาธารณรัฐฝรั่งเศส และ 4. พระนางมารี อังตัวเนต ได้มีส่วนร่วมในแผนสมรู้ร่วมคิดและข่าวโคมลอยนี้หรือไม่ ถ้าท่านสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติ ตอบคำถามข้าผู้น้อยว่าจริงก็สมควรประหารพระนางเพื่อขจัดเสี้ยนหนามของแผ่นดิน”

สมาชิกสภาประชาชนได้ตอบคำถามว่าจริงทุกข้อ และลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ประหารชีวิตพระนางมารี อังตัวเนต ในข้อหาเป็นทรราชย์อย่างร้ายแรงต่อประเทศฝรั่งเศส โดยให้ดำเนินการประหารในวันพรุ่งนี้ โดยประหารเป็นอันดับที่สองต่อจากนางสาวชาร์ล็อตต์ คอร์เดย์ (Charotte Corday) ที่ให้ประหารเป็นคนแรก

รุ่งเช้าของวันที่ 16 ตุลาคม 1793 ท้องฟ้าฝรั่งเศสยามนี้ยังมืดสนิท เริ่มเข้าใกล้ฤดูหนาวอากาศเริ่มเย็นยะเยือก มีเพียงแสงไฟ  ที่สว่างจากโคมไฟของชาวบ้านที่มารอชมการประหารชีวิต  พระนางมารี อังตัวเนต ที่ลานประหาร ปลาส เดอ ลา เรฟโวลูซิยง กันมากมายราวกับมหกรรมตลาดนัดแสดงสินค้า ผู้คนได้มาจับจองพื้นที่ใกล้กับแท่นประหารกิโยติน

หลายคนมาจองที่ตั้งแต่เที่ยงวัน เพื่อจะได้เห็นการประหารชีวิตพระนางมารี อังตัวเนต อย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะประหารพระนางผู้ช่วยเพชฌฆาตได้นำนางสาวชาร์ล็อตต์ คอร์เดย์ (Charotte Corday) ที่สภาประชาชนได้ลงมติให้ประหารชีวิตเป็นคนแรก            ได้นำนักโทษ ขึ้นสู่แท่นประหารกิโยติน มีการมัดแขนเพื่อไม่ให้ดิ้นและนำคอของนางไปพาดกับขื่อ หลังจากเตรียมการพร้อมแล้ว หัวหน้านักโทษได้ให้สัญญาปล่อยใบมีดลงมาตัดศรีษะคอร์เดย์ ขาดกระเด็นและผู้ช่วยเพชฌฆาตได้หยิบศีรษะของนางชูขึ้นให้กับหัวหน้าเพชฌฆาตได้รับทราบถึงการประหารเสร็จสิ้นแล้ว

ในขณะที่ผู้ชมที่อยู่ใกล้ ได้เห็นภาพที่สร้างความตกตะลึงพรึงเพริด รวมทั้งผู้ช่วยเพชฌฆาตที่ไปหยิบศีรษะนักโทษขึ้นมาแสดงได้เห็นดวงตาของคอร์เดย์ ทำสีหน้าไม่พอใจ และทำปากเหมือนกับจะพูดว่า ไม่นะ ข้าบริสุทธิ์ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์            ได้ลุกขึ้นยืนและอุทานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“โอ้พระเจ้าช่วย”

“โอว” หลายคนถึงกับฉี่ราดด้วยความตกใจกลัว และพากันถอยหนีจากลานประหาร

ขณะที่โรแบสปิแยร์และ แซงส์ จูสต์ และบักเคนมาชม                การประหารได้ลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แซงส์ จูสต์ ถึงกับอุทาน

“โอ้พระเจ้าช่วย ทำไมคนที่ถูกใบมีดตัดศีรษะถึงพูดได้ แม้ไม่มีเสียง”

การประหารชีวิตได้สร้างความหวั่นไหวและขนพองสยองเกล้าให้กับชาวบ้านที่มาชมการประหารชีวิต ส่วนบักเคนถึงกับขนแขนแสตนอัพ ด้วยความตกใจ เพราะไม่นึกว่าจะเฮี้ยนขนาดนี้ ขนาดตายไปยังไม่ถึงนาที ยังสามารถหลอกหลอนได้ บักเคนถึงกับสวดอรหังออกมาด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ต่อจากนั้นก็นำพระนางมารี อังตัวเนต เข้าสู่เครื่องประหาร      กิโยติน หัวหน้าเพชฌฆาตได้มาทำหน้าที่แทน ผู้ช่วยเพชฌฆาตที่ยังไม่หายตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หัวหน้าเพชฌฆาตได้มาขออโหสิกรรมกับพระนาง ซึ่งพระนางก็ได้ให้อภัยและขอร้องหัวหน้าเพชฌฆาต ให้ไปขอร้องท่านประธานสภาประชาชน ว่าตนเองอยากขอพูดกับคุณเคนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตายจะได้ไหม ซึ่งหัวหน้าเพชฌฆาตได้ไปบอกให้กับโรแบสปิแยร์ สักขีพยานและประธานการประหารชีวิตได้รับรู้คำขอร้องของพระนางมารี อังตัวเนต 

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *