บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 127)
by admin · สิงหาคม 25, 2020

บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนนที่ 127)
การประกาศสงครามของรัฐบาลออตโตมาน อังกฤษ รัสเซีย ก่อความตื่นตระหนกต่อประชาชนในประเทศฝรั่งเศส หลายครอบครัว รีบอพยพหนีภัยสงคราม ความยากจน ความวุ่นวาย ไปยังสหรัฐอเมริกา ลาตินอเมริกา ข่าวการเป็นพันธมิตรของสามประเทศจะรุมกินโต๊ะฝรั่งเศส นโปเลียนยังคงไม่ได้ทราบนี้ เพราะการสื่อสารเป็นไปด้วยความยากลำบากใช้เวลานับเดือน
นโปเลียนก็วางแผนทำในสิ่งที่ตนตั้งใจไว้ก่อนออกเดินทางมาอียิปต์ โดยให้นักชีวิทยาไปสำรวจพันธ์พืชสัตว์ ในทะเลทราย ส่วนนโปเลียน บูรชาร์ดและบักเคนก็ออกไปสำรวจปิรามิดตามที่เคยรับปากบักเคนและอยากทำในสิ่งที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ เคยทำมาก่อน
ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นขบวนม้า อูฐ เดินเรียงรายเป็นทิวแถว บนผืนทะเลทราย บักเคนเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ขี่อูฐ ส่วนนโปเลียนก็ขี่ม้ามุ่งตรงไปยังมหาปิรามิดกิซ่า ที่ฟาโรห์คูฟู เป็นผู้สร้างสิ่งมหัศจรรย์
“ช่างใหญ่โตมโหฬาร ยิ่งนัก สร้างได้อย่างไร หินแต่ละก้อนใหญ่ๆ ทั้งนั้น” บักเคนนั่งพึมพำบนหลังอูฐ
นโปเลียน หยุดม้าและจ้องมองปิรามิดที่แสงแดดส่อง แล้วสะท้อนแสงสีทองขณะท้องฟ้ามีสีฟ้าสว่างไร้เมฆหมอก ขบวนอูฐ ม้า ต้องหยุดตามเพราะนโปเลียนหยุด บักเคนบังคับอูฐเข้าไปใกล้นโปเลียน “ท่าน นโปเลียน ท่านหยุดม้าทำไม”
“มองดูความยิ่งใหญ่ของปิรามิด ช่างยิ่งใหญ่มนุษย์ยุคโบราณสามารถสร้าง ปิรามิดได้ ผมต้องสร้างความยิ่งใหญ่ให้โลกจารึกเหมือนกับปิรามิด”
ออกเดินทางเถอะท่านเดี๋ยวจะสำรวจปิรามิดเสร็จมันจะมืดเสียก่อน” มูซาบอกกับนโปเลียน
ขบวนสำรวจก็เคลื่อนขบวนมุ่งตรงไปยังมหาปิรามิดกิซ่า ที่มองเห็นตั้งแต่ไกล มีต้นอินทผาลัมขึ้นเป็นหย่อมๆ เมื่อถึงมูซา ผู้นำทางได้เดินนำหน้าเข้าไปยังปิดรามิด คูฟู โดยมี บูรชาร์ด นโปเลียน บักเคน เดินตามกันเข้ามา โดยทางเข้าที่แท้จริงถูกซ่อนไว้ แต่มูซาจำได้เพราะเคยเข้าออกเป็นประจำตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ “ทางเดินนี้เรียกว่า แอล มามูน ที่ถูกขุดเจาะโดยคณะสำรวจของ สุลต่าน แอล มามูน (Caliph Al Mamoun) โดยทางเข้านี้ถูกเจาะห่างจากทางเข้าจริง ไปทางซ้าย ประมาณ 7 เมตร และต่ำลงมาจากทางเข้าจริงประมาณ 17 เมตร บรรยากาศภายในปิรามิด เย็นยะเยือก เสียงเดินของ มูซา บูชาร์ด นโปเลียนและบักเคน ดังสะท้อน ตามอุโมงค์ ทางเดิน บักเคนรู้สึกวังเวง เลยนึกถึงหนังผีที่เคยดู จะมีผีมัมมี่ลุกขึ้นมาจากปิรามิด และแมลงคีเปรา มีปีกแข็งสีดำเดินเต็มในปิรามิด บักเคนขนแขนลุก
“ตุ๊กแก ตุ๊กแก ๆ” บักเคนหูแว่ว ได้ยินตุ๊กแก ร้อง “อะไรว่ะ ในปิรามิด กลางทะเลทรายมีตุ๊กแกด้วยหรือ
“เสียงลมมันพัดถูกไม้ ทำให้เกิดเสียงประหลาดเหมือนกับเสียงสัตว์อะไร ซักอย่างไม้นี้คนโบราณสร้างไว้ป้องกันทรายไม่ให้พัดเข้ามา ลมพัดเลยเกิดเสียงขึ้น” มูซาบอกบักเคน
“ประตูทางเข้าที่แท้จริงจะถูกซ่อนไว้ คนที่ไม่รู้ ถ้าเปิดประตูผิด หลงเข้าไป จะตายในปิรามิด มีพวกลักลอบ เปิดประตูผิดและหลงเข้าไป ไม่สามารถออกมากได้ คนภายนอกก็ไม่กล้าเข้าไป เคยมีคนเข้าไปช่วยสุดท้ายก็ออกมาไม่ได้ ต้องตายตาม” มูชาบอกกับทุกคน พวกท่านต้องเดินตามผมถ้าเจอทางอย่าแยกตัวออกไปสำรวจโดยเด็ดขาด เพราะทางเข้าที่แท้จริง แต่ถูกซ่อนไว้ ก่อสร้างเป็นประตูกลเป็นหินรูปสามเหลี่ยมโดยมีน้ำหนักที่สมดุลกัน ถ้าหากมีผู้บุกรุกจากภายนอก แล้วใช้แรงดันประตูเข้าไป มันก็จะเปิดง่ายมาก พอเดินเข้าไปประตูมันจะปิดทันที จะไม่สามารถดันให้เปิดออกได้ เนื่องจากประตูกลจะไปดันกับเพดานทำให้ไม่สามารถดันเปิดได้ ถ้าให้คนภายนอกดันเปิดอีก แล้วให้คนภายในออกมา ก็ทำไม่ได้ ประตูนี้ต้องรอเวลาหนึ่งเดือนถึงจะเปิดได้อีกครั้ง” มูซาอธิบายถึงเหตุผล
“ทำไม่ท่านรู้ละเอียดมาก” บักเคนชักสงสัยว่าทำไมมูซาถึงรู้เส้นทางเข้าปิรามิด ปู่ของปู่เล่าให้ฟังคณะสำรวจของ สุลต่าน แอล มามูน (Caliph Al Mamoun) มาสำรวจปิรามิดแห่งนี้ และผมก็เคยมากับพ่อ หลายครั้งเพื่อหาสมบัติ แต่ก็ไม่เคยเจอ คิดว่าในปิรามิดยังมีห้องซ่อนอยู่อีกมาก แต่หาทางเข้าไม่เจอ” มูซาบอกบักเคน
เป็นไปได้ บักเคนเคยอ่านเจอนักโบราณคดีค้นพบห้องลับที่ซ่อนอยู่ในปิรามิดคูฟูเมื่อสามปีที่ผ่านมาใหญ่ขนาดเครื่องบินสองร้อยที่นั่งน่าจะมีสมบัติอยู่ภายในอีกมากมาย บักเคนนึกในใจ
“ทุกคนเดินระวังหน่อยนะ ทางเดินแคบ ค่อยลาดลง กว้างเพียง 1 เมตร สูง 1.2 เมตร ทางเดินนี้มีความยาวจากปากทางถึง ห้องโถงใต้ดิน เป็นระยะทางกว่า 100 เมตร”
มูซานำเดินไปสักพักก็บอกให้ทุกคนหยุด
“หยุดก่อนพวกท่าน เรามาถึงทางเดินขึ้นไปยังห้องเก็บพระศพฟาโรห์แล้วต้องเดินขึ้นไปทางขึ้นจะชัดนิดหน่อย ชันเหมือนกับตอนเดินลง”
มูซาชูคบไฟขึ้น และบอกนโปเลียน “ท่านเพดานเป็นหินแกรนิตขนาดใหญ่ จำนวน 3 ก้อนเรียงต่อๆ กันมา และก้อนแรก มันเหมือนกับเป็นกลอนประตู เพราะสามารถผลักได้ ท่านลองมาผลักดู มันผลักได้ง่าย ไม่กินแรง แต่แปลก ผลักไปแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น” หลังจากฟังมูซาจบ ทุกคนมาลองผลักหินแกรนิตดู แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง
“ผมคิดว่า ทางเดินสมัยก่อนคงเป็นหินแกรนิตตามเส้นทางนี้ ทำให้ คณะของสุลต่าน แอล มามูน ไม่สามารถขุดได้ ต้องเลี่ยงมาขุดเจาะบริเวณด้านผนังด้านข้างที่เป็นหินปูนซึ่งเป็นหินที่อ่อนกว่าแล้วอ้อมไปเชื่อมต่อกับอุโมงค์ทางเดินแบบชันขึ้น แทน”
“แสดงว่าฟาโรห์คงต้องซ่อนอะไรในห้องแน่นอน ถึงเอาหินแกรนติมาทำเป็นทางเข้าและประตู” บักเคนตั้งข้อสันนิฐาน “ไม่ทราบ ไม่เคยมีใครอธิบายครับ” มูซาบอกบักเคน
ในระหว่างเดินทางบักเคนสังเกตเห็นขอบทางเดินริมผนัง มีรูสี่เหลี่ยมเรียงรายเป็นจำนวนมากนั้น เลยถามบูชาร์ด “ท่านบูชาร์ด ผนังขอบทางเดินทำไมมีรูสี่เหลี่ยมเรียงรายเป็นจำนวนมาก รูนี้ไว้ทำอะไร”
บูชาร์ดบอกบักเคน “น่าจะเป็นช่องสำหรับติดตั้งไม้เพื่อทำเป็นสะพานชั่วคราว หรือใช้ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับชักลากสิ่งของขนาดใหญ่บางอย่าง ผมก็ไม่แน่ใจ” บูชาร์ด บอกทุกคน
“น่าสนใจ รูมันเรียงราย หรือว่าปิรามิดจะสร้างจากข้างในไปข้างนอก โดยลากเอาก้อนหินใหญ่ขึ้นมา ตามทางเอียงวนรอบปิรามิด น่าจะเป็นไปได้ เพราะคงไม่เครื่องช่วยอะไรที่จะก้อนหินขนาดยักษ์ไปสร้างปิรามิด มันวางข้างนอกซ้อนกันเป็นไปไม่ได้” นโปเลียนสันนิษฐาน เมื่อเห็นมีรูเรียงราย”
“น่าจะใช่ครับท่าน นโปเลียน ท่านเก่งจริง ๆ ผมยังนึกไม่ถึงเลย” บูชาร์ดตอบนโปเลียน
ส่วนบักเคนนึกไปคนที่ไหนจะลากกินก้อนเบ้อเริ่มหินแต่ละก้อนก็ใหญ่เท่ากันเป๊ะๆ มนุษย์จะต้องใช้แรงงานจำนวนกี่ร้อยคนมาชักลากหินก้อนยักษ์ และจะผลักมันเขยื้อนออกไปวางเป็นรูปทรงปิรามิดได้อย่างไรคงเป็นมนุษย์ต่างดาวสร้างแน่นอน ไว้พบกับลอร่ากับพาราซิทอลจะถามข้อสงสัยนี้