บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 272)

บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 272)

“ท่านแกรนด์ตื่นเร็วๆ ทหารฝรั่งเศสพายเรือใกล้เข้ามาแล้ว” เสียงทหารรีบเคาะห้องพักและรีบบอกแกรนด์วิเซียร์ และรีบไปเคาะห้อง ยูซุป นาบี ซาอิด ที่ปรึกษาที่อยู่ติดกัน”

          “เกิดอะไรขึ้น เอะอะโวยวายตั้งแต่เช้ามืด” ยูซุป นาบี ซาอิด ร้องถามทหารที่มาเคาะห้อง

          “ทหารฝรั่งเศสกำลังพายเรือใกล้เข้ามาแล้ว” ทหารยามร้องบอก

          “มากี่ลำ” ยูซุป นาบี ซาอิด ถามขณะนอนสบายอยู่ในห้องขณะกำลังนอนกอดทหารเติร์กและกำลังเริ่มสงครามใต้สะดือ ยูซุป นาบี ซาอิดเป็นชายรักชาย ความเปล่าเปลี่ยว ทำให้ต้องหาทหารที่มีรสนิยมไม้ป่าเดียวกัน มาปรนเปรอตัณหา

“เกือบร้อยลำครับท่าน” ทหารร้องตอบ

ยูซุป นาบี ซาอิด ถึงกับรีบลุก “เจ้ารีบแต่งตัว ข้าจะไปรายงานต่อท่านแกรนด์ก่อน

ยูซุป นาบี ซาอิด เปิดประตูห้องออกมา ก็พบแกรนด์วิเซียร์ออกมาจากห้องเช่นกัน

“พวกฝรั่งเศสมันบ้าอะไรขึ้นมา” แกรนด์วิเซียร์สถบออกมา

“มันคงจะโจมตีและยึดเรือครับท่าน พวกฝรั่งเศสไม่มีเรือเหลืออยู่แล้ว คงเป็นความคิดของนโปเลียน ที่เห็นทหารอังกฤษถอนทัพออกไปจึงส่งทหารมายึดเรือ” ยูซุป นาบี ซาอิด คาดการและบอกกับแกรนด์วิเซียร์

“สั่งการลงไปให้เตรียมปืนใหญ่และถ้ามันเข้าระยะปืนใหญ่ให้ยิงถล่มมันเลย” แกรนด์วิเซียร์บอกกับทหาร

“ครับท่านแกรนด์”

“ท่านกระสุนปืนใหญ่มีเหลือไม่มาก พวกอังกฤษเหลือกระสุนปืนใหญ่ในเรือไม่ถึง 30 ลูกครับท่าน” ทหารเรือรายงาน

“ก็ยิงมันให้หมด และเตรียมสู้ตายกับพวกมัน” แกรนด์วิเซียร์เกิดบ้าเลือดขึ้นมายอมสู้ตาย

          “ครับ”

          “มันใกล้เข้าแล้ว เตรียมยิง”

          “ยิงได้ ตูม ตูม” กระสุนปืนใหญ่ดังกึกก้องทั่วท้องฟ้า

          “เฮ้ย ระวัง กระสุนปืนใหญ่ เสียงร้อยเอกเจนัวร์ตะโกนบอกทหารที่กำลังพายเรือมุ่งตรงมายังเรือรบของแกรนด์วิเซียร์ที่จอดเพียงลำเดียว

“กระสุนปืนใหญ่ตกใส่ข้าง ๆ เรือของทหารฝรั่งเศสทำให้เกิดคลื่นสูงเรือบดได้พลิกคว่ำทหารฝรั่งเศสตกน้ำ”

“พวกเราเป็นอะไรมากไหม”  เสียงตะโกนของพันเอกอาร์รอนตะโกนถามดังลั่น

          “ไม่เป็นไรครับท่านผู้พัน”

พวกเราบุกต่อไป” พันเอกอาร์รอนตะโกนบอกทหาร และเอาปืนใหญ่ขนาดเล็ก (ปืนค. ในสมัยปัจจุบัน) ที่นักวิทยาศาสตร์ดัดแปลงสามารถติดบนเรือบดได้ แต่กระสุนปืนยิงได้ไม่ไกลและไม่แม่นยำ เพราะคลื่นในทะเลทำให้การวางปืนไม่นิ่ง พันเอกเจนัวร์ได้นำปืนใหญ่ ขนาดเล็ก ดัดแปลงที่เหลือจำนวน 5 กระบอกที่เหลืออยู่นำมาใช้ในการรบครั้งนี้

“พายเข้าไปใกล้กว่านี้อีกหน่อยและให้พายห่างจากกันหน่อยอย่า พายใกล้กัน” เสียงพันเอกเจนัวร์ตะโกนบอกทหารให้พายเรือให้ห่างออกจากกัน เพื่อป้องกันกระสุนปืนใหญ่ตกใส่เรือบดที่พายใกล้กัน และบอกให้พายเข้าใกล้เรือ เพื่อยิงปืนใหญ่ขนาดเล็ก

ทหารฝรั่งเศสได้พายเรือพายอย่างช้า ๆ เพราะต้องคอยหลบกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงมายังเรือ กระสุนปืนใหญ่นัดหนึ่งได้ตกใส่เรืออย่างแม่นยำ

“ตูม”

“อ๊ากซ์ เสียงทหารฝรั่งเศสร้องเสียงหลง ทหารหลายนายถูกกระสุนปืนใหญ่ฉีกร่างขาดกระเด็นลอยขึ้นบนท้องฟ้า เรือบดแตกเป็นเสี่ยงๆ

“โอ พระเจ้าช่วย” พันเอกเจนัวร์อุทานออกมา เพราะกระสุนปืนใหญ่ตกใส่เรือทหารฝรั่งเศสห่างออกไปไม่เกิน 50 เมตรทำให้เกิดคลื่นสูงทำให้เรือบดของพันเอกเจนัวร์ถึงกับโคลงไปมา

“พายไปใกล้หน่อย อาจจะมีผู้รอดชีวิต” เสียงของพันเอกเจนัวร์ตะโกนสั่งการ

“ครับท่าน”

เรือบดได้พายไปอย่างช้าเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตจากกระสุนปืนใหญ่ที่เรือบดเคราะห์ร้ายลำหนึ่งได้ถูกกระสุนอย่างจัง

“ไม่มีอะไรเลยครับท่านมีแต่เศษเรือลอยอยู่ครับท่าน” ทหารที่พายเรือได้บอกกับพันเอกเจนัวร์

อีกด้านหนึ่ง ทหารเติร์กเดินเรียงรายเป็นแนวยาวมีผ้าปิดตาและผูกมือติด ๆ กัน ทุกคนเดินด้วยความสิ้นหวัง ได้ยินเสียงกระสุนปืนใหญ่ดังกึกก้อง ทหารเติร์กได้เดินคุยกัน มีพันตรีเอ็ดเวิร์ดขี่ม้าคอยควบคุมทหารฝรั่งเศสหลายพันนายที่ควบคุมทหารเติร์กจากที่กักกันชุดแรก ให้เดินเรียงแถวจากค่ายกักกันมายังชายหาดก่อนรุ่งสาง ท่ามกลางเสียงปืนใหญ่ที่ดังกึกก้อง ส่วนทหารเติร์กที่เหลือให้รออยู่ในค่าย

“ไอ้พวกฝรั่งเศสมันจะนำพวกเราไปไหนกัน”

          “เดินเงียบอย่าคุยกัน” เสียงทหารฝรั่งเศสตะโกนบอกทหารเติร์ก แม้คำพูดของทหารฝรั่งเศสทหารเติร์กจะไม่เข้าใจในคำพูดแต่ก็พอเดาความหมายว่าอย่าพูดกัน

          ทหารเติร์กเดินไปหลายพันคนมีสีหน้าสิ้นหวัง หลายคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะรู้อนาคตตัวดีว่าการเดินไปในครั้งนี้ไม่ใช่เดินไปเพื่ออิสระภาพแต่เดินไปหาความตาย ไม่รู้ตนเองจะมีโอกาสได้เห็นตะวันขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่

ทุกคนเดินมีผ้าปิดตาและมือถูกมัดและผูกโยงเข้าด้วยกัน ทุกคนเดินเป็นแถวเรียงราย เสียงคลื่นเหมือนกับเสียงร้องไห้จากสรวงสรรค์ที่หลั่งน้ำตาที่ชายหนุ่มถูกเกณฑ์มารบต้องมาสิ้นชีวิตบนชายหาดแห่งนี้ เสียงคลื่อนสาดซัดหาดทรายเหมือนกับเสียงร้องคร่ำครวญ ของ พ่อแม่ เมีย ลูกของชายหนุ่มที่ต้องมาจบชีวิตในวัยหนุ่มฉกรรจ์ บนดินแดนที่ห่างจากบ้านเกิดเมืองนอน

ทุกคนเดินพยายามเก็บความรู้สึกและสูดลมหายใจเข้าปอดเป็นครั้งสุดท้ายอีกไม่นานคงจะได้เป็นอิสระได้ไปพบองค์อัลเลาะห์ พระองค์ทรงมารับชายชาติทหารให้ไปอยู่กับพระองค์

“หยุด” เสียงตะโกนของทหารฝรั่งเศสทำให้ทหารเติร์ก ต้องหยุดเดิน

“คุกเข่าลง” เสียงตะโกนด้วยภาษาเติร์กจากทหารที่รู้ภาษาเติร์กตะโกนสั่งเป็นทอด ๆ

หลายคนขัดขืนทหารฝรั่งเศสได้เอาปืนกระแทกหลังทหารเติร์กและเตะขาให้คุกเข่าลง

ทหารฝรั่งเศสได้เอาปืนยาวจ่อไม่ห่างจากท้ายทอยทหารเติร์ก เสียงพันตรีเอ็ดเวิร์ดตะโกนสั่งยิงได้

“ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ๆๆๆๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงปืนดังกึกก้องชายหาดพร้อมกับร่างทหารเติร์กล้มคว่ำหน้าลงเลือดไหลนองเต็มพื้นทรายเลือดแดงฉานไหลลงทะเลย้อมน้ำทะเลเป็นสีแดงฉานทหารเติร์ก ห้าพันนานต้องมาเสียชีวิตพร้อมกันในชุดแรก

เสียงปืนดังกึกก้องทำให้ แกรนด์วิเซียร์ถึงกับตกใจ

“มันเกิดอะไรขึ้นเสียงปืนดังกึกก้องที่ชายหาด ไม่มีเสียงยิงโต้ตอบ”

“โอองค์อัลเลาะห์ทรงมารับดวงวิญญานทหารผู้กล้าหาญที่ต้องพลีชีวิตในครั้งนี้”  ยูซุป นาบี ซาอิด อุทานออกมา เพราะรู้ดีเสียงปืนนี้มันคือการประหารชีวิตหมู่ต่อทหารเติร์กโดยทหารฝรั่งเศส

“อัลเลาะห์คุ้มครอง” แกรนด์วิเซียร์ถึงกับอุทานออกมา

 

“พวกเราแก้แค้นให้บุตรชายของพวกเรา ที่กล้าหาญสละชีวิต ถูกไอ้พวกฝรั่งเศสมันกระทำฝ่ายเดียวอย่างไม่มีทางต่อสู้

You may also like...