บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 324)

“เอาละทุกคนสำหรับข้อเสนอสำหรับวันนี้พอแค่นี้ ความคิดของคุณอาดัม รีบนำเสนอผมโดยด่วน ผมจะลงนามร่างประกาศให้มีผลบังคับใช้” นโปเลียนบอกกับอาดัม

“ขอบคุณครับท่าน”

“สำหรับข้อเสนอของท่านกอมบาซาเรและคุณเคนก็ไปเตรียมรายละเอียดและนำเสนอผมโดยด่วน รีบนำเข้าสภาเพื่อให้อนุมัติ ทุกอย่างต้องแข่งกับเวลา ประเทศของเรารออีกไม่ได้ ทุกนาทีมีค่าเสมอ ทั้งปากท้องของประชาชนที่เดือดร้อนเพราะของแพง และเกียรติภูมิของประเทศต้องกลับมายิ่งใหญ่ในเร็ววัน” นโปเลียนบอกกับกอมบาซาเรและบักเคน

“ครับท่านนโปเลียน”

ผมมีธุระจะหารือกับ ภรรยาผมหน่อย”

“ครับท่าน พวกผมขอตัว” กอมบาซาเร อาดัมและบักเคนเอ่ยขึ้นพร้อมกันและลุกออกไปจากห้อง โดยมีรัสตัมเดินไปส่ง

“รัสตัมตามคุณนายกลับมาพบผมด้วย” นโปเลียนบอกกับรัสตัม

“ครับนายท่าน”

นางโจเซฟินหลังจากผลุนผลันออกไปจากห้องนางก็ไปนั่งร้องไห้อยู่ข้างนอก เมื่อถูกนโปเลียนตำหนิในความคิดของนางที่เสนอให้ท่านให้ทหารไปเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่เพื่อให้ได้ไข่ แจกชาวบ้านเพราะทหารช่วงนี้ก็ไม่ได้ไปสงคราม ทหารมีระเบียบวินัยน่าจะเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ได้ดีกว่าชาวบ้านทั่วไป ผลผลิตก็จะได้มาก สามารถเลี้ยงคนฝรั่งเศสที่กำลังอดอยากโดยเฉพาะคนชั้นล่าง คนยากจน คนเร่ร่อน หญิง และเด็กกำพร้าที่เต็มไปด้วยความหิวโหยจะไปขอใช้แรงงานกับขุนนางก็ถูกปฎิเสธว่าแรงงานเต็มแล้ว เลยต้องเร่ร่อนอยู่ตามเมืองใหญ่ เช่นปารีส มาเซย์ นีล

“คุณนาย ท่านนโปเลียนให้ไปพบท่าน ท่านนั่งรออยู่” รัสตัมบอกกับโจเซฟิน

“ท่านยอมให้พบแล้วหรือ” เสียงนางโจเซฟินเอ่ยด้วยความตื่นเต้น”

“ใช่ครับนายท่านให้ไปพบ “

“แล้วพวกคุณเคนล่ะ”

“กลับหมดแล้วครับ นายท่านอยากจะคุยกับคุณนายสองต่อสอง” รัสตัมบอกย้ำกับนางโจเซฟิน

“ได้ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้” นางโจเซฟินรีบลุกขึ้นและรีบเดินไปยังห้องที่นางออกมา รัสตัมมองเห็นกิริยาของนางโจเซฟินถึงกับส่ายหัวเมื่อเห็นกิริยาของนางโจเซฟิน ช่างแตกต่างกับเฟาเรส  ภรรยาอีกคนที่นโปเลียนรับเป็นภรรยา นางคือคลีโอพัตราแห่งอียิปต์ในยุค นโปเลียนปกครองอียิปต์

          “พี่นโปเลียนมีอะไรหรือค่ะ” เสียงนางโจเซฟินออดอ้อน

นโปเลียน กิริยาของนางช่างแปรเปลี่ยนได้รวดเร็ว เพื่อรักษาอำนาจต่อ ชู้รักเก่าหรือหรือจะสู้สามีปัจจุบันแม้นโปเลียนจะหมดรักหล่อน แต่หล่อนก็ต้องใช้มายาหญิงเพื่อรักษาอำนาจที่สามีของนางมีอำนาจสูงสุดในประเทศตอนนี้

          “เธอมาก็ดีแล้ว พี่ไม่ค่อยมีเวลาและยุ่งมาก ครั้งแรกว่าจะให้ทหารไปตามหาเธอที่บ้านของตัลเลียง”

          “พี่มีอะไรจะให้น้องช่วยก็บอกมา” นางโจเซฟินบอกกับนโปเลียน

“น้องสาวพี่ คาโรลีนจะแต่งงาน เธอมาบอกกับพี่ และพี่ว่าจะให้ของขวัญวันแต่งงานกับน้องสาวของพี่ พอดีพี่รู้ว่าเธอชอบซื้อเครื่องประดับ สร้อย กำไล แหวน เลยอยากจะขอยืมสร้อยของเธอที่ใส่มาพี่เห็นว่าสวยดี อยากให้น้อง คาโรลีนยืมใส่ในวันแต่งงาน ถือว่าเป็นของขวัญจากผม” นโปเลียนพูดตรง ๆกับนางโจเซฟิน

“พี่ว่าอะไรน่ะ นางโจเซฟินถึงกับเอามือกุมสร้อยด้วยความตกใจ เพราะเป็นสร้อยที่นางไปซื้อกับพ่อค้าของเก่า หลังจากการทลายป้อมบาสตีล ความวุ่นวายในฝรั่งเศส ทรัพย์สินของพระเจ้าหลุยส์และพระนางมารีอังตัวเนต ได้หายไปจำนวนมาก ก่อนที่พระนางมารีอังตัวเนตจะถูกประหาร สร้อยเพชรบลูไดมอนส์ หลังจากถูกทหารเฝ้าชายแดนยึดไปก็เปลี่ยนผู้ครอบครองทุกคนเจออาถรรพ์ของเพชรบลูไดมอนส์ และสุดท้ายมีคนนำมาขายให้กับพ่อค้าของเก่าในปารีส และนางโจเซฟินได้ซื้อเอาไว้ และให้คนทำเลียนแบบสร้อยบลูไดมอนส์ ส่วนสร้อยเส้นจริงนางเก็บเอาไว้เพราะนางได้เงินจากนโปเลียนโดยอาดัมนำมามอบให้ นางจ่ายเงินซื้อสร้อยบลูไดมอนส์ ไปเกือบล้านฟรังส์ และไปจ้างช่างทำเลียนแบบ เงินที่ได้จากนโปเลียนและเงินที่ชู้รักของนางมอบให้จำนวนหลายแสนฟรังส์ถึงกับหมดเกลี้ยง ถึงแม้นางจะทราบถึงตำนานเพชรบลูไดมอนส์ แต่ด้วยความงามของเพชรบลูไดมอนส์ ทำให้นางอดใจไว้ไม่ไหวต้องซื้อสร้อยเพชรบลูไดมอนส์ที่ร่ำลือกันว่ามีอาถรรพ์ จนทำให้พระนางมารีอังตัวเนต ถูกประหารชีวิต

“จะยืมสร้อยของน้องไปเป็นของขวัญวันแต่งงานของน้องสาวพี่ ทำไมพี่พูดง่ายจัง ไม่ถามว่าน้องจะให้หรือไม่ให้” นางโจเซฟินบอกกับนโปเลียน

“เธอมีสร้อยหลายเส้น ผมแค่ขอยืมเส้นหนึ่งเป็นของขวัญวันแต่งงานน้องสาว เธอจะคิดเป็นเงินเท่าไหร่ก็ว่ามา” นโปเลียนบอกกับนางโจเซฟิน

“ได้ถ้าพี่จะเอา น้องก็ยินดีมอบให้” นางโจเซฟินพูดจบก็ถอดสร้อยเพชรบลูไดมอนส์เส้นทำเลียนแบบมอบให้กับนโปเลียน

“พี่ขอยืมกำไลด้วยนะ” นโปเลียนบอกกับนางโจเซฟิน

“พี่ว่าอะไรน่ะ จะทั้งสร้อย กำไล เอาแหวนด้วยมั้ยค่ะ” นางโจเซฟินพูดประชด

“ถ้าเธอยินดีมอบให้พี่ก็รับ ทั้งสร้อยและกำไลส่วนแหวน ไม่ต้อง เธอมีสร้อยมุก กำไลมุก พี่ก็ขอยืมก็แล้วกัน เดี๋ยวจะคืนเป็นเงินให้” นโปเลียนบอกกับนางโจเซฟิน

“พี่รับปากแล้วนะ สร้อย กำไลมุก น้องซื้อมา สองล้าน

ฟรังส์”  นางโจเซฟินบอกกับนโปเลียน

“พระเจ้าช่วย ทำไมมันแพงขนาดนี้เธอใช้เงินฟุ่มเฟือยกับสิ่งของเหล่านี้ ในขณะที่อีกหลายหมื่นคนไม่มีแม้กระทั่งอาหารตกถึงท้อง แต่เธอกับมีเงินซื้อของฟุ่มเฟือย” นโปเลียนถึงกับบ่นออกมา

“ก็น้องชอบสิ่งของสวยงาม น้องไม่ซื้อของที่ไม่มีราคาในตัวเอง ของที่น้องซื้อถ้าไปขายต่อก็ได้ราคา เป็นการลงทุนชนิดหนึ่ง ได้ใส่สวยงามและขายก็มีราคา” นางโจเซฟินพูดกับนโปเลียน

“ใครจะบ้าซื้อเครื่องประดับราคาแพงขนาดนี้ ไม่เข้าใจผู้หญิง จริงๆ ซื้อไปได้เงินเป็นล้านฟรังส์” นโปเลียนบ่นออกมา

“เงินของน้องจะซื้ออะไรก็ได้ พี่ไม่มีสิทธิว่าน้อง  คาโรลีนน้องสาวพี่แต่งงาน ทำไมพี่ไม่ซื้อสร้อย ราคาถูก ๆ เส้นละสิบ

ฟรังส์ให้น้องสาวพี่ใส่ในงานแต่งงานล่ะ” นางโจเซฟินเถียงกับ

นโปเลียน

“เออ….. เออ…มันไม่เหมาะ พี่ไม่นึกว่าสร้อยจะแพงขนาดนี้ นึกว่าเส้นหนึ่งไม่กี่พันฟรังส์” นโปเลียนบอกกับนางโจเซฟิน

“คริ คริ.. ตลกน่ะ สาว ๆ คนไหนบ้างที่จะไม่ชอบเครื่องเพชร ไข่มุกราคาเท่าไหร่ถ้านางมีปัญญาจะหาซื้อเอาไว้พวกเธอก็ยินดี ที่จ่าย แต่เพราะนางไม่มีปัญญาซื้อต่างหากล่ะ” นางโจเซฟินบอกกับนโปเลียน

“พี่ยอมแพ้ พี่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเพชรพลอย

You may also like...