บักเคนทะลุมิติภาค 1 (ตอนที่ 111)

บักเคนทะลุมิติภาค 1 (ตอนที่ 111)

ที่ผมเชิญคุณเคนมาในวันนี้ อยากรู้จักเพราะประทับใจในความกล้าหาญของคุณเคนและชอบแนวคิดด้านการค้าที่โด่งดังมากในกรุงปารีส ผมเคยไปร้านเหล้าของคุณเคน เห็นลูกค้าแน่นร้าน มีสาวเสิร์ฟ หนุ่มกล้ามโต เสิร์ฟอาหาร เป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน  ผมเลยคิดไปไกล ถ้าประเทศฝรั่งเศสนำแนวคิดการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้มาใช้ น่าจะช่วยประเทศได้มาก” นโปเลียนบอกบักเคน

          “ไม่เก่งหรอกท่าน ผมต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เลยต้องเปิดร้านอาหารเพราะทุกคนต้องกินต้องอยู่ และร้านอาหารหรู เมนูต้องแปลกแตกต่างจากร้านอื่น ๆ เพราะถ้าเปิดร้านเหมือนกับชาวบ้านไม่แตกต่าง ก็ยากประสบความสำเร็จในธุรกิจ เพราะร้านอาหารมีการแข่งขันกันสูง ถ้าเปิดธรรมดา ราคา ก็ไม่แตกต่างจากอื่น คงไม่เป็นที่สนใจของชนชั้นสูง ต้องหากินกับคนรวย เพราะคนรวยเป็นคนมีทรัพย์สินเงินทอง ร้านอาหาร ผับ เป็นธุรกิจน่านน้ำสีแดงเหมือนเลือด (Red Ocean) มีการแข่งขันสูงมาก ผมก็กลับมาคิดจะใช้เงินกัปตันทำร้านอาหารอย่างไรให้ลูกค้าติด ก็ต้องคิดแบบ น่านน้ำสีน้ำเงิน (Blue Ocean) ทำร้านอาหารแต่ทำให้แตกต่างจากเดิม เช่นมีโคโยตี้เต้นรูดเสา หนุ่มหุ่นล่ำบึ๊ก สูงใหญ่มาเสิร์ฟอาหาร ลูกค้าผมมีทั้งสองกลุ่ม ข้าราชการชั้นสูง  ชนชั้นนายทุน สาวสังคมชั้นสูง เป็นลูกค้าของผมทั้งสองกลุ่ม ตลาดเดิมอาจจะเป็นตลาดที่เป็น (Red Ocean) อยู่เดิมก็ได้ ร้านอาหารที่มีอยู่ในปารีส แต่ ผมเพิ่มจุดขายที่พิเศษกว่า ดีกว่า เหนือกว่า ทำให้ทุกคนสนใจเพราะผมเห็นว่า ที่ปารีสยังมีช่องว่าง ผมสามารถสร้างผับ เลาจน์ เน้นไปที่ตลาดที่เรียกว่า นิช มาเก็ต (niche market)  ซึ่งเป็นตลาดที่อาจจะยังเป็นกลุ่มเล็กๆที่อยู่ในตลาดใหญ่ แต่มีกำลังซื้อมหาศาล หลังจากเปิดลูกค้าเข้าร้านแน่นตลอด ทำให้สามารถเพิ่มราคาสินค้าได้ และสร้างงานให้กับแม่หม้ายหลายสิบชีวิต และอีกหลายครอบครัวได้มีอยู่มีกินท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจวุ่นวายทั่วฝรั่งเศส” บักเคนอธิบายให้นโปเลียน ฟัง

 “แปะ แปะ ๆ “ เสียงตบมือดังขึ้น ยอดเยี่ยมมากคุณเคน ผมไม่เคยได้ฟังแนวคิดประหลาดมาก่อน” นโปเลียนบอกบักเคน ในขณะที่อาดัมก็มีดวงตาเป็นประกายกับ แนวคิดของบักเคน สามารถสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับสมาคมอัลลูมาติได้อย่างดี ถ้ามหาเศรษฐีนำแนวคิดนี้มาใช้ในทุกธุรกิจ ก็สามารถครอบครองโลกใบนี้ไม่ยาก” โอ๊ว พระเจ้า ผมไม่นึกมาก่อนเลยว่าความคิดคุณเคนจะเฉียบแหลมมาก คุ้มค่ามากที่เดินทางมากับคุณเคน” อาดัม เอ่ยปากบอกบักเคน ส่วนซิลแวงส์ ฟังยังไม่เก็ต อะไรน่านน้ำสีแดง น่านน้ำสีน้ำเงิน แต่ด้วยมารยาทก็เลยนิ่งเงียบ แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

          บักเคนอธิบายให้ นโปเลียน และอาดัมฟัง ก็เลยลื่นไหลพูดต่อไป ผมสร้าง กิมมิก (gimmick) ที่แตกต่างคือ ประสบการณ์การ ดื่ม ทานอาหารแล้วอิ่มท้อง  และอาหารสายตา มองดูทาสผิวดำ หุ่นกำยำให้แม่หม้ายชนชั้นสูงที่อารมณ์เปลี่ยว ส่วนพ่อค้า ที่ชอบดูสาว ๆ เต้นรูดเสา มาเสิร์ฟอาหาร ดูได้ทั้งสายตาและสัมผัส หาไม่ได้ในร้านอาหารโดยทั่วไปทั่วยุโรป

บักเคนได้คุยต่อไปว่า “ ถ้าฝรั่งเศสสงบสุข ไม่มีสงคราม และผมไม่โดนหมายจับ โดนยึดทรัพย์ และผมได้อาศัยอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตจะหาไม่จะนำกลยุทธ์ น่านน้ำสีขาว (White Ocean) มาใช้ กลยุทธ์สุดท้ายก็เปรียบเทียบกับความดีนั่นเอง นั่นก็คือกลยุทธ์ทำดีเพื่อสังคม เพราะฝรั่งเศสมีคนยากจน คนหิวโหย เด็กกำพร้ามากมาย ผมจะนำรายได้ส่วนหนึ่งมาช่วยเหลือ เด็ก แม่หม้าย คนยากจนได้มีงานทำ ปลูกผัก ทำสวนแล้วนำผักที่ปลูกมาขายให้กับทางร้าน ก็จะเกิดรายได้ถาวร เป็นการแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง” บักเคนบอกนโปเลียน

          พลจัตวานโปเลียนพอได้ยินบักเคนพูดจบ ก็ลุกขึ้นและเดินมาหาบักเคน “สุดยอดมากครับคุณเคน ไม่เสียทีที่ผมได้พบกับคุณเคนแนวคิดของคุณเคนจะช่วยประเทศฝรั่งเศสได้มากมายมหาศาล ส่วนเรื่องประกาศยึดทรัพย์และหมายจับของคุณเคนไม่ต้องกังวลใจ คุณเคนอดทนนิดผมจะหาทางแก้ไขปัญหานี้ให้คุณเคนเอง”

“ผมอยากจะชวนคุณเคน อาดัม และซิลแวงส์ ได้พักอยู่ที่นี่ให้สบาย ไม่มีใครกล้ามาค้นที่นี่ สักพักผมจะให้คนสนิทนำคุณเคนไปพักที่ เมือง อายัชโช บนเกาะคอร์ซิกา ซึ่งเป็นบ้านเกิดผม ภรรยาและลูกผมอาศัยอยู่ที่นั่น ที่นั่นปลอดภัย คณะกรรมการดิเร็กตัวร์ ไม่ค่อยยุ่งกับเรื่องบนเกาะมากนัก” นโปเลียนบอกบักเคนกับพวก

          ช่วงนี้ผมผมเองก็โดนหมายหัวจาก คณะกรรมการดิเร็กตัวร์ เหมือนกัน ผมถูกร้องเรียน หลังจากยึดเมืองตูลูสคืนได้จากอังกฤษ หาว่าผม กลั่นแกล้งชาวเมือง คณะกรรมการพยายามกีดกันออกไปไม่ให้ยุ่งราวในฝรั่งเศส

          “เกาะคอร์ซิกาอยู่ที่ไหนครับ” บักเคนถามนโปเลียน อ๋ออยู่ใกล้กับ เจนัว แต่ฝรั่งเศสได้ซื้อเกาะนี้จาก สาธารณรัฐเจนัว ในปีค.ศ. 1768  อ้าวก็แสดงว่า คุณนโปเลียนก็ไม่ใช่ชาวฝรั่งเศส แต่เป็นชาวอิตาลีใช่ไหมครับ” บักเคนถามนโปเลียน

          ใช่ผมเป็นชาวอิตาลีก่อนหน้านั้น พลจัตวานโปเลียนบอกบักเคนถึงเรื่องภรรยากับลูก ซึ่งหลังจากนโปเลียนมีชื่อเสียงโด่งดัง วันหนึ่งได้ไปงานเลี้ยงและพบกับแม่หม้ายที่ชื่อ โจเซฟิน เดอ โบฮาร์เนส (Josephine de Beauharnais) โจเซฟินมีผมสีน้ำตาล รูปร่างระหง เป็นคนสวยและที่สำคัญหล่อนมีโครงใบหน้าเหมือนกับเดสิเรที่นโปเลียนแอบหลงรัก โจเซฟินเกิดบนเกาะมาร์ตินิค ซึ่งเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสอยู่แถวบริเวณทะเลแคริบเบียน สามีของโจเซฟินเป็นขุนนาง และสามีของนางถูกโรแบปิแยสประหารด้วยกิโยติน ส่วนนางเองก็เกือบเอาตัวไม่รอด เมื่อพบกับมาพลจัตวานโปเลียนที่เป็นนายพลหนุ่ม โจเซฟินอายุมากกว่านโปเลียน 6 ปี เป็นสาวสังคมเป็นแม่หม้ายลูกติด โจเซฟินมีลูกติดกับสามีเก่าสองคน เต็มไปด้วยเรื่องฉาวคาวโลกีย์ เป็นไก่แก่ แม่ปลาช่อน ที่แพรวพราวด้วยชั้นเชิงโลกีย์ ด้วยความมีใบหน้าคล้ายหญิงที่ตนหลงรัก โจเซฟิน ได้หว่านเสนห์ และปรนเปรอสวาททำให้นโปเลียนยอมแต่งงานด้วยท่ามกลางการคัดค้านของพี่และน้องและมารดาของนโปเลียน แต่นโปเลียนไม่แคร์ หลังจากแต่งงานแล้ว นโปเลียนให้ โจเซฟินไปพำนักอยู่ที่เกาะคอร์ซิก้า เพราะที่ปารีส นโปเลียน มีบาร์บ่าร่าอยู่แล้ว

You may also like...