บักเคนทะลุมิติภาค 1 (ตอนที่ 113)

บักเคนทะลุมิติภาค 1 (ตอนที่113)

          “ท่านอาดัมเคยมาที่เกาะคอร์ซิก้าบ่อยไหม” โจฟินถามอาดัม “ผมมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มากับคุณเคนและซิลแวงส์ โดยซิลแวงส์คนนำพระโอรสของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ลี้ภัยไปอยู่เยอรมัน ส่วนบักเคนก็เป็นคนช่วยเหลือผม อยากจะชวนเขามาอยู่สมาคมร่วมกับพวกเรา เขาเป็นสมาชิกฟรีเมสันอยู่ก่อนแล้ว” อาดัมบอกโจฟิน “โอว ไม่เลวเลย คนสยามได้เป็นสมาชิกสมาคมฟรีเมสันคนแรก สมาคมยากจะรับสมาชิกภายนอกยุโรปให้เข้าเป็นสมาชิกสมาคมแสดงว่าต้องมีความเก่งเรื่องใดเรื่องหนึ่ง” โจฟินพูดกับอาดัม  “ก็ใช้เขามีโซฟีแนะนำให้เป็นสมาชิกสมาคม

          อาดัมหายไปตั้งแต่ช่วงเช้าจนบ่ายแก่ ก็เดินทางกลับที่พัก ยังเห็นบักเคนและซิลแวงส์นั่งคุยกันตั้งแต่เช้า จนถึงช่วงบ่าย ยังไม่เลิกคุยโดย มี โจเซฟิน ร่วมสนทนาด้วย อาดัมชักสงสัยว่ามีอะไรคุยกันมากมายตั้งแต่เช้า

          ***************************************

           หลังจากอยู่บนเกาะมาได้สักพัก บักเคนเริ่มสนิทกับโจเซฟิน โจเซฟินถามบักเคนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับสยามที่นางไม่เคยรู้มาก่อน “คุณเคนว่าการเดินทางระยะไกลที่เมืองสยามมีรถม้าไหม” บักเคนบอกว่าไม่มีรถม้า การเดินทางอาศัยเกวียนและขี่ม้า” 

“คุณเคนรู้จักนโปเลียนได้อย่างไรค่ะ” โจเซฟินถามบักเคน

“อ๋อนโปเลียนให้คนไปเชิญผมมาพบ อยากจะสนทนาด้วย” “โอมายก๊อด คุณเคนเป็นคนเก่งนโปเลียนชมคุณเคนไม่ขาดปาก อยากให้คุณเคนช่วยงานท่านนโปเลียนที่ฝรั่งเศส” โจเซฟินเอ่ยปากบอกบักเคน

“ขอบคุณครับผมยังเอาไม่รอดเลยถูกหมายจับและยึดทรัพย์ ดีแต่ท่าน นโปเลียนให้มาอาศัยหลบภัยการเมืองที่เกาะนี้ ผมจะไปช่วยท่าน นโปเลียนได้อย่างไร เพราะไม่เก่งในเรื่องสงคราม เรื่องการรบ” บักเคนบอกโจเซฟิน

“เห็นนโปเลียนบอกว่าคุณเคนมีหัวการค้าน่าจะมีแนวทางช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในของฝรั่งเศสได้มาก” โจเซฟินบอกบักเคน ทั้งคู่สนทนากันอย่างถูกคอ ส่วนมากโจเซฟิน จะเป็นคนคุยสนุกสมกับสาวสังคมชั้นสูง ส่วนบักเคนได้แต่คอยตอบ เพราะไม่กล้าคุยอะไรมาก กลัวพูดผิดหู แล้วโจเซฟินจะนำไปเล่าให้นโปเลียนฟัง อาจจะเกิดผลที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

ระหว่างสนทนา โจเซฟินได้เล่นหูเล่นตาแพรวพราวใส่บักเคน ส่วนซิลแวงส์ได้แต่นั่งฟังเฉย ๆ บางครั้งก็สอบถามบักเคนบางสิ่งที่สนใจเกี่ยวกับสยาม  “คุณเคนคุณพ่อเลยเล่าให้ฟังว่าศาสนาคริสต์ได้ไปเผยแพร่ที่กรุงสยามแล้วเกิดปัญหาในช่วงปลายสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 หลังจากมีราชทูตไทยเคยมาเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14  เป็นข่าวโด่งดังทั่วประเทศฝรั่งเศส แล้วพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงส่งนักบวชเดินทางไปเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับอาณาจักรสยามเพื่อเผยแผ่ศาสนาคริสต์ 

ต่อมาได้เกิดการปฏิวัติในประเทศสยามทำให้เกิดการทำร้ายนักบวชในศาสนาคริสต์ จนทำให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงไม่พอพระทัย ในการกระทำของอาณาจักรสยาม ข้อเท็จจริงเป็นประการใด วันนี้เลยได้ถือโอกาสถามบักเคนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา”

บักเคนได้ยินซิลแวงส์ถาม ถึงเหตุการณ์ในประเทศสยามช่วงพระเจ้าหลุยส์ครองราชย์ ตรงกับสมัยของ พระเจ้าปราสาททอง สมเด็จเจ้าฟ้าไชย  สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระเพทราชา สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 พระเจ้าเสือ และปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 พระเจ้าท้ายสระ บักเคนพยายามทบทวนเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในช่วงนั้น ว่ามีเหต์การณ์อะไรที่เด่นบ้าง ที่ตรงกับซิลแวงส์ถาม”

“คุณเคนพอทราบไหมครับ ถ้าไม่ทราบก็ไม่เป็นไร ผมแค่สนใจอยากรู้ เพราะผมไปโบสถ์ เห็นนักบวชในโบสถ์พูดถึงเรื่องนี้มากว่าไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในฝรั่งเศสหรือยุโรปมาก่อน” ซิลแวงส์ถามบักเคน

“เอ่อ ขอคิดแป๊ปนะครับ บักเคนนึกในใจมันนานจนแทบจะจำไม่ได้เพราะจบมานาน บักเคนพยายามนึกทบทวนสิ่งที่ครูโรงเรียนดอนมดแดงเคยเล่าให้ฟังในวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา”

“ผมจำได้นิดหน่อยนะครับ แต่ขอเล่าคร่าว ๆ ก็แล้วกัน” บักเคนบอกซิลแวงส์  “ดีจัง คุณเคน ฉันก็อยากฟังเหมือนกัน เพราะเคยได้ข่าวเขาพูดคุยกันในวงสังคมชั้นสูงของปารีส ถึงเรื่องนักบวชโดนลงโทษ ซึ่งไม่เคยมีในฝรั่งเศสมาก่อน”  โจเซฟินเสริมซิลแวงส์

 “เท่าที่จำได้ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ได้มีนักบวช พระสังฆราชลังแบรต์ เดอ ลาม็อต (Lambert de la Motte) เป็นพระสังฆราชองค์แรกที่เดินทางมาถึงกรุงศรีอยุธยา คุณพ่อหลุยส์   ลาโน (Louis Laneau) คุณพ่อแฮงค์ (Hainques) คุณพ่อแบรงโด (Brindeau) ได้เดินทางมาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ที่กรุงศรีอยุธยา เพราะดินแดนแห่งนี้สงบเงียบปราศจากสงคราม ผู้คนอยู่กันอย่างสงบสุข มีไมตรีจิต มีการวางแผนที่จะก่อตั้งคณะนักบวชแห่งอัครสาวกขึ้น อันประกอบไปด้วยนักบวชชาย หญิง รวมทั้งฆราวาส โดยจะตั้งชื่อว่า คณะรักไม้กางเขน แห่งพระเยซูคริสต์ (Amateurs de La Croix de Jesus Christ) มีการก่อตั้งคณะนักบวช หญิงพื้นเมืองคณะแรกของโลกขึ้น คือ คณะรักไม้กางเขน เพราะคนกรุงศรีอยุธยานี้หัวอ่อน เชื่อฟังง่าย ยอมรับความคิดได้ง่าย”

“ทางสังฆราชที่มากรุงศรีอยุธยาเลยทำจดหมายขอมีอำนาจเด็ดขาดจากทางกรุงโรม ในการดูแลดินแดนสยาม และได้พระสังฆราชหลุยส์ ลาโนเป็นพระสังฆราชแห่งกรุงสยาม เพราะพระเจ้าแห่งกรุงสยาม สมเด็จพระนารายณ์ ให้การสนับสนุนพวกมิชชันนารีมาก ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระสังฆราชและมิชชันนารีเข้าเฝ้าอย่างสง่า ได้พระราชทานที่ดินสำหรับสร้างวัดและโรงเรียน และยังได้พระราชทานวัตถุต่างๆ เพื่อใช้ในการก่อสร้างด้วย ในที่สุดประเทศสยามได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศฝรั่งเศสและกรุงโรม มีการส่งคณะทูตอันเชิญพระราชสาสน์ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส และสมเด็จพระสันตะปาปาหลายครั้ง”

 

“การที่สมเด็จพระนารายณ์ทรงมีพระทัยเมตตาต่อบรรดามิชชันนารีนี้ ทำให้เกิดมีความเข้าใจผิดขึ้น ประกอบกับขุนนางไทยเริ่มหวั่นเกรงว่าอิทธิพลของขุนนางชาวกรีก คนหนึ่งที่ชื่อคอนสแตนติน ฟอลคอน (Constantine phalcon) ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระนารายณ์มากจนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าพระยาวิไชเยนทร์ มีอำนาจแม้กระทั่งควบคุมทหารได้ จะทำให้ความมั่นคงของประเทศสั่นคลอน”

You may also like...