บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 311)

บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 ตอนที่ (311)

“เรื่องมันยาว ไหน ๆ ก็ ไหน ฉันจะบอกความลับที่ทุกคนไม่รู้ว่า ทำไมนโปเลียนถึงแต่งงานกับฉัน หลังจากที่นโปเลียนมีชื่อเสียงโด่งดัง วันหนึ่งได้ไปงานเลี้ยงและพบกับฉันที่เป็นแม่หม้าย ใบหน้าฉันเหมือนกับใบหน้าราชินีเดสิเรตามความเชื่อของนโปเลียน วันหนึ่งฉันไปพบรูปราชินีเดสิเรในกระเป๋าตังส์ของนโปเลียนฉันเลยถามนโปเลียนว่าพกรูปราชินีเอาไว้ นโปเลียนบอกกับฉันอย่างไร เธอรู้ไหม” โจเซฟินถามตัลเลียง

          “ไม่รู้ แล้วนโปเลียนบอกเธอว่าอย่างไร”ตัลเลียงตอบโจเซฟิน

“นโปเลียนหลงรัก ราชินีเดสิเรข้างเดียว ก่อนที่ราชินีจะแต่งงานกับ แบอร์นาดอทท์  และต่อมาได้เป็นองค์กษัตริย์ ของสวีเดน ราชีนีไม่สนใจนโปเลียน ทำให้นโปเลียนได้แต่แอบรักข้างเดียว ให้ช่างวาดรูปเหมือนของเดสิเรและพกติดตัวไว้ตลอดเวลา และในงานเลี้ยง นโปเลียนได้พบกันฉัน ครั้งแรกฉันไม่รู้ว่านโปเลียนจะมีปมรักในใจ ฉันก็เพิ่งเป็นหม้าย ต้องหาคนที่คอยปกป้องและอุปถัมภ์ เธอก็รู้ว่าบ้านเมืองเป็นอย่างไร สถานการณ์ที่เศรษฐกิจย่ำแย่ คนตกงาน การประท้วงมีมาตลอดตั้งแต่สมัย โรแปสปิแยร์ มาถึงคณะกรรมการดิเร็กตัวร์ ฉันเห็นนโปเลียนน่าจะฝากชีวิตได้เลยตอบตกลงแต่งงานกับนโปเลียน” โจเซฟินบอกกับตัลเลียง

“มันเป็นอดีตไปแล้ว ไม่ใช่หรือราชินีเดสิเร มีพระสวามีไปแล้ว มันก็ไม่เกี่ยวกัน เธอคือ ภรรยาของนโปเลียน” ตัลเลียงบอกกับโจเซฟิน

          “มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด นโปเลียนไม่ได้มีใจรักฉัน เพียงแต่หาคนที่หน้าเหมือนคนรักเก่าเพื่อชดเชยบาดแผลทางจิตใจแค่นั้น และฉันเองก็ไม่ดี มีสามีเป็นตัวตนก็ยังไม่หยุดสนุก ผลกรรมก็เลยเกิดขึ้น เฮ้อ ช่างมันเถอะ มันจบแล้ว” โจเซฟินบอกกับตัลเลียง

          “เธอน่าจะไปอ้อนวอนขอโอกาสให้เธออีกครั้ง นโปเลียนอาจจะใจอ่อน” ตัลเลียงแนะนำเพื่อน

          “ยาก นะเธอ รักคนที่เขารักเรา ถ้าเราทำอะไรผิด เขาจะให้อภัยเสมอในสิ่งที่ทำ แต่ถ้าไปรักคนที่ไม่มีใจรักเรา ถ้าเราทำผิด เขาจะไม่ยอมให้อภัยเด็ดขาดในสิ่งที่เขายอมรับไม่ได้ และนโปเลียนก็มีเมียเก็บ บาร์บ่าร่า” อีกคนโจเซฟินบอกกับตัลเลียง

“เธอว่าอะไรน่ะ นโปเลียนมีเมียเก็บอีกคน แล้วเธอยอมได้อย่างไร

“ ผู้หญิงไม่มีสิทธิมีเสียง เธอก็รู้ดี ไม่ว่าเรื่องในครอบครัวหรือ เรื่องการเมือง ทุกอย่างเป็นเรื่องของผู้ชาย” โจเซฟินบอกกับตัลเลียง

“แต่เห็นนโปเลียนรับสมัครทหารหญิงไปรบที่อียิปต์ แล้วทำไมถึงบอกว่าผู้หญิงไม่มีสิทธิ แต่ทำไมเป็นทหารได้” ตัลเลียงไม่วายสงสัย

“ไปเป็นนางบำเรอมากกว่า จะเป็นทหารหญิงออกรบ” โจเซฟินตอบประชดประชัน โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ทหารหญิงที่ไปรบที่อียิปต์ได้สร้างผลงานการรบมากมาย

          “เธอมองโลกในแง่ร้ายรู้ไหม การล้มล้างพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ก็มีกลุ่มแม่ค้า ร่วมประท้วงด้วย สายตาเธอมองโลกในด้านแย่เพียง อย่างเดียว แล้วเธอจะกลับไปหาท่านบาราส อีกไหม ท่านบาราสรักเธอนะโจเซฟิน ถ้าเธอไปอ้อนวอน ขอโอกาสให้เธอกลับไปอยู่ด้วย” ตัลเลียงแนะนำโจเซฟิน

          “อืมส์ ก็น่าคิดนะแต่ท่านบาราส ก็คงไม่มีอำนาจอะไรในรัฐบาล”

          “นี่เธอ ยังแสวงหาอำนาจอีกเหรอ” ตัลเลียงถามเพื่อน

          “ใช่อำนาจคือสิ่งหอมหวาน สามารถทำได้ทุกสิ่ง ไปไหนก็มีคนยกย่อง เคารพ เรียกลมเรียกฝนได้ บาราสถ้าหมดอำนาจ ก็คือคนแก่ธรรมดา ที่ฉันสามารถหาสามีที่มีอำนาจมากกว่าบาราสได้มากมาย มีขุนนาง หลายคนชอบฉัน แต่เกรงใจนโปเลียน ไม่กล้าเพราะฉันเป็นภรรยาของนโปเลียนพวกขุนนางเลยไม่กล้าออกหน้า ช่างเหอะ ชีวิตฉัน ฉันกำหนดเอง เธอก็อย่ายุ่งมากนัก” โจเซฟินบอกกับตัลเลียง

          “เพื่อนหวังดี เธอก็ปฎิเสธ แล้วแต่เธอฉันจะไม่ถามถึงอีก” ตัลเลียงบอกกับโจเซฟิน

          “นายหญิงมีคนมาหาคุณโจเซฟิน” หญิงรับใช้บอกกับตัลเลียง

          “ใครกันมาหาโจเซฟิน เขาได้บอกรายละเอียดไหม”

          “คนขับรถม้า ที่เคยมารับนายหญิงกับคุณโจเซฟินค่ะ” คนรับใช้บอกกับตัลเลียง

“มันเรื่องอะไรหรือเธอ นินทาท่านบาราสแป๊ป ท่านก็ส่งคนมารับ เธอนี่แม่นางยั่วเมือง” ตัลเลียงพูดแซวโจเซฟิน

“บ้า เธอก็พูดอะไรก็ไม่รู้ คงมีเรื่องอะไรจะให้ฉันช่วยมั้ง”

“คุณโจเซฟิน ท่านบาราสให้มารับคุณโจเซฟินครับ” สารถีบอกกับโจเซฟิน

“ไม่ว่างวันนี้ฉันมีธุระกับเพื่อน ไว้วันหน้าบอกท่านบาราสว่าฉันไม่ว่าง” โจเฟซินบอกกับสารถี

“เออ ท่านบาราสย้ำก่อนผมมารับ ว่าคุณนายต้องไปพบท่านบาราสให้ได้ครับ”

“เรื่องด่วนอะไร ถึงรีบร้อนขนาดนั้น” ตัลเลียงเอ่ยเบา ๆ

“คงมีเรื่องด่วน ฉันต้องขอตัวก่อนนะ” โจเซฟินบอกกับตัลเลียง

รถม้าได้นำโจเซฟินไปพบกัลตัลเลียง ที่รออยู่ด้วยความกระวนกระวายใจ

“ ท่านค่ะ มีเรื่องรีบร้อนอะไรถึงต้องให้คนไปรับฉันที่กำลังคุยธุระอยู่กับเพื่อน” โจเซฟินหลังจากพบกับบาราสก็ถามด้วยความสงสัย

“ก็มีถ้าไม่มีฉันคงไม่ให้คนไปรับมาพบด่วนขนาดนี้ เธอมาก็นั่งพักก่อน เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง

“เธอคงทราบสามีเธอตอนนี้ได้ยึดอำนาจเรียบร้อยแล้ว”

“มีอะไรหรือ จะมาแสดงความยินดีกับฉันหรือ” โจเซฟินเอ่ยกับบาราส

“ใช่ฉันมาแสดงความยินดีกับเธอที่ได้สามี มีอำนาจสูงสุดในเวลานี้ ฉันอยากให้เธอคิดถึงความรู้สึกของสองเราที่ดี ๆ ก่อนหน้านี้ ฉันอยากจะให้เธอช่วยอะไรสักหน่อยจะได้ไหม” บาราสเอ่ยกับโจเซฟิน

“จะให้ฉันช่วยเรื่องอะไร ฉันไม่ยุ่งเรื่องหน้าที่การงานของนโปเลียนขอบอกไว้ก่อน” โจเซฟินพูดดักคอ

“ไม่ใช่เรื่องหน้าที่การงาน เธออย่าคิดมาก มันเรื่องนิดเดียว แค่เธอเอ่ยปากก็จบ”

“แล้วทำไมท่านไม่บอกกับนโปเลียนเองล่ะ” โจเซฟินย้อนถามบาราส

“มันเสียศักดิ์ศรีผู้ชาย ฉันว่าเธอบอกมันจะเหมาะกว่า”

“ให้ช่วยเรื่องอะไร บอกก่อนนะถ้าเป็นเรื่องขอตำแหน่งฉันไม่มีสิทธิก้าวก่าย” โจเซฟินบอกกับบาราส

“ไม่ใช่เรื่องนั้น ฉันแค่อยากให้เธอบอกกับนโปเลียนว่า ฉันขอลาออกไปอยู่บ้าน และปล่อยให้ฉันไปใช้ชีวิตสงบ มันไม่ใช่เวลาของฉันแล้ว ฉันควรอยู่กับบ้าน และฉันอยากให้เธอบอกกับนโปเลียนว่าเรื่องที่ผ่านๆมา ก็ขอให้ผ่านไป อย่ารื้อฟื้น บอกกับนโปเลียนด้วยว่าฉันขอลาออก เธอทำได้ไหม” บาราสถามโจเซฟิน

“อ๋อนึกว่าเรื่องอะไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่สักนิด แค่ขอลาออกทำไม ไม่ไปลาออกเองบอกฉันทำไม” โจเซฟินกล่าวย้ำอีกครั้ง

“มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ผู้ชายพูดไม่เหมาะ ฉันถึงขอร้องให้เธอช่วย มันไม่เหลือบ่ากว่าแรงแค่เธอเอ่ยปากกับนโปเลียน” บาราสแม้จะรู้สึกหงุดหงิด ที่ถูกโจเซฟินถามย้ำ แต่ก็อดทนเอา

“ฉันจะลองดู แล้วมีอะไรให้ฉันบ้างถ้าไปคุยกับนโปเลียนสำเร็จ” โจเซฟินถามบาราส

“เธออยากได้อะไร ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงและเป็นสิ่งที่ฉันให้ได้ ก็ยินดี” บาราสบอกกับโจเซฟิน

“ดี ฉันจะช่วยเต็มที่ขอเงินสัก 1 ล้านฟรังส์ได้ไหมสำหรับการทำงานในครั้งนี้”โจเซฟินบอกกับบาราส

หลังจากได้ยินข้อเรียกร้อง เป็นเงินมหาศาล บาราสถึงกับสะอึก นึกไม่ถึง เมียเก่า จะเรียกร้องมากมายขนาดนี้

 

“ก็ได้ถ้าเธอพูดคุยกับนโปเลียนสำเร็จ และฉันลาออกเรียบร้อยแล้วเธอมารับเงินได้เลย” บาราสบอกกับโจเซฟิน

You may also like...