บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 312)

บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 ตอนที่ (312)

.

“พี่นโปเลียนจะไม่ให้ฉันเข้าบ้านเลยหรือ ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษาให้ฉันพบหน่อยได้ไหม ไม่ให้เข้าบ้านก็ขอพูดคุยนอกบ้านได้ไหม แล้วฉันจะไป มีเรื่องอยากขอร้องจริง ๆ” เสียง โจเซฟินตะโกนจากนอกบ้านที่รถม้าจอดอยู่ เหมือนกับให้นโปเลียนอับอายทหารยามที่ยืมเฝ้ารักษาการณ์อยู่ โจเซฟินจะพยายามเข้าไป แต่ทหารยามไม่ให้เข้าเพราะนโปเลียนสั่งการเอาไว้เด็ดขาดห้ามโจเซฟินเข้ามาในบ้าน

“ใครมาส่งเสียงเอะอะโวยวายอยู่ข้าง” โนเปลียนถามรัสตัม

“นายหญิงครับท่าน”

“ไม่ใช่นายหญิง โจเฟซินมาทำไมอีก ก็ตกลงกันแล้วนี่” นโปเลียนเอ่ยขึ้นกับรัสตัม

“นายหญิงมาขอพบอยากพูดคุยกับท่านสักครู่ แต่ทหารยามไม่ให้เข้าพบครับ” รัสตัมตอบนโปเลียน

“ไม่ใช่นายหญิง”

“ครับ นายท่าน”

“โจเซฟินอยากพูดคุยกับท่านถ้าไม่เข้าบ้านก็ขอพูดคุยข้างนอกบ้าน นายจะอนุญาตไหม”

“รัสตัมไปถามซิจะคุยกับฉันเรื่องอะไร”

“ครับ นายท่าน”

“คุณนายจะพบนายท่านด้วยเรื่องอันใดไม่ทราบ” รัสตัสออกจากบ้านและเดินผ่านทหารยามมาสอบถามนางโจเซฟิน

“ฉันอยากพบกับนโปเลียนสักครู่มีเรื่องจะปรึกษา ขอพูดคุยในสวนสองต่อสองได้ไหม หลังจากคุยกับพี่นโปเลียนเสร็จฉันก็จะไป รัสตัมช่วยไปบอกพี่นโปเลียนให้ด้วยนะ น๊ะ รัสตัม” โจเซฟินทำเสียงออดอ้อน

“ครับนายหญิงผมจะไปเรียนนายท่านให้ นายท่านว่าอย่างไรผมจะมาส่งข่าวให้กับนายหญิง”

“ขอบใจจ๊ะ”

 

*************************************************

 

ขบวนรถม้าโดยสารรับจ้าง (Carriage Mob)  และชนชั้นกลางในฝรั่งเศส เมื่อได้ทราบข่าวการยึดอำนาจของนโปเลียน ขบวนรถม้ารับจ้างก็ออกมาแสดงการเรียกร้องขอประชาธิปไตยและให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้สิทธิเสรีภาพแก่ประชาชน ยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีของชาติ ประชาชนทั้งสองฝ่ายต่างออกมาเรียกร้อง โดยกลุ่ม สส. กลุ่มพิทักษ์ราชบัลลังค์ ได้อยู่เบื้องหลังร่วมกับขุนนางและชนชั้นสูงได้ให้ประชาชนที่อยู่ภายใต้สังกัดในระบอบฟิวดัลของตน ทาสที่ติดที่ดิน ประชาชนที่เช่าที่ดินเดิมของตน แต่ที่ดินตกเป็นของขุนนาง ออกมาเรียกร้องให้นโปเลียนที่ยึดอำนาจ คืนอำนาจกลับให้กับสภาขุนนาง

ส่วนลูเซียงก็ได้ให้กลุ่มจาโกแบงส์  และกลุ่มจีรองแดงส์ ออกมาเดินขบวนสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงการปกครองของนโปเลียน ประชาชนทั้งสองฝ่ายออกมาเดินขบวนเรียกร้องทั้งสองกลุ่มออกมาเรียกร้องหวิดจะได้ปะทะกันในแนวคิดที่แตกต่างกันสุดขั้ว การเมืองฝรั่งเศสก็วุ่นวายเหมือนกับสมัยโรแปสปิแยร์ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 การเปลี่ยนผ่านการเมืองฝรั่งเศสเต็มไปด้วยเลือดและน้ำตา

“อยากได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย แสงทองผ่องอำไพประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน ทุกคนแตกต่างกันเพียงเพศ แต่อย่างอื่นไม่แตกต่างกัน  ”

“ที่ดินของนายทุนและขุนนางต้องให้ประชาชนที่ยากไร้ ทุกคนมีสิทธิในทีดิน ที่ดินไม่ใช่ของคนหนึ่งคนใด” เสียงตะโกนสนับสนุนความต้องการในข้อเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้านที่ออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมในสิทธิที่ดินทำกินไม่ใช่เป็นของนายทุน ศาสนจักร ขุนนาง ความคิด เสียงตะโกนของประชาชนที่เป็นกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ออกมาร่วมผสมโรงทำให้การเมืองฝรั่งเศสที่วุ่นวายยิ่งสับสนมากยิ่งขึ้น  โดยการนำของ แกรกซัส บาโบฟ์ (Babeut Gracchus) หลังจากที่ลัทธิคอมมิวนิสต์เริ่มแตกหน่อขยายความคิดสังคมนิยมขึ้นในสังคมฝรั่งเศส (จากแนวคิดของ บาโบส์ทำให้คาลส์มาร์ก ต้องนำมาเขียนชมเชยแนวคิดของ บาโบส์ว่าเป็นความคิดล้ำสมัยเกินขอบเขตของโลกเก่าเป็นแนวคิดในการปฎิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในรัซเซีย จีน คิวบา เกาหลีเหนือในเวลาต่อมา

 

********************************

 

“โจเฟซินอยากให้นายไปพูดคุยสักนิด เธอขอร้องครับนาย  และท่านจอมพลมีโน่ได้ให้ทหารรับใช้มาส่งข่าวว่าจะขอเข้าพบครับที่นายท่านสะดวกครับ ให้แจ้งกับทหารที่มาส่งข่าวครับ” รัสตัมบอกกับนโปเลียนถึงสองเรื่องราว

“รัสตัมไปบอกโจเซฟินฉันให้พบครั้งสุดท้ายหลังจากนั้นไม่ต้องฉันไม่ให้พบ ส่วนเรื่องที่ท่านจอมพลมีโน่จะมาพบผมก็ให้มาพบในช่วงเย็นวันนี้” นโปเลียนบอกกับรัสตัม และนโปเลียนได้เดินไปยังศาลาในสวนโดยมีคนรับใช้ไปจัดเตรียมสถานที่นัดพบ ไว้รอ โดยมี พันโทโจซัวร์ ที่ขึ้นมาเป็นนายทหารติดตามเดินตามนโปเลียนไปยังศาลา คอยอารักขา ส่วนรัสตัมและร้อยโทนาธานเนียล เป็นคนออกไปรับ โจเซฟินที่รออยู่ที่รถม้า

“สวัสดีพี่นโปเลียน ขอบคุณนะค่ะที่ให้พบ” โจเซฟินเอ่ยปากขอบคุณนโปเลียนหลังจากพบหน้า สามีภรรยาห่างเหินกันหลังจากนโปเลียนเดินทางไปอียิปต์ ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันในนาม ในใจของทั้งสองมีคนรักอื่น โจเฟซินก็มีคู่รักไม่ซ้ำหน้า ส่วน นโปเลียนมี บาร์บ่าร่าเป็นเมียเก็บไม่ค่อยแสดงบทบาทมากนักนอกจากเป็นภรรยาอย่างลับ ๆ ส่วนเฟาเรสภรรยาของนโปเลียนอีกคน หลังจากกลับจากอียิปต์ นโปเลียนได้ให้พลโทหญิงโคลเอ้ติดต่อ พันตรีหญิงนาตาช่า เพื่อให้นำเฟาเรสที่เดินทางล่วงมาที่ฝรั่งเศสก่อนและขึ้นฝั่งที่เมืองมาร์เซย์ให้เข้ามาพักอาศัยอยู่ในปารีสที่บ้านพักในค่ายทหารชานเมือง

เฟาเรสเมื่อได้ยินข่าวนโปเลียนกลับมาถึงปารีสโดยปลอดภัยก็ดีใจและยินดีที่ได้พบกับคนรักอีกครั้งหลังจากไม่ได้พบกันนาน เฟาเรสได้เดินทางมาพร้อมกับทหารอารักขา พันตรีหญิงนาตาช่าและ ร้อยตรีหญิงเอเวลิน

ที่ศาลารับรอง ร้อยโทนาธาลเนียลและรัสตัมได้นำโจเฟซินมาพบนโปเลียน ทั้งคู่ได้ถอยออกไปห่างจากศาลา และเฝ้าระวังไม่ให้ใครมารบกวนการสนทนาของทั้งสอง

“มาพบผม” ด้วยเรื่องอันใด นโปเลียนถามโจเซฟินด้วยคำถามห้วน ๆ

“น้องคิดถึงน่ะ มาหาไม่ได้หรือพี่ หรือพี่ลืมน้องแล้ว” โจเซฟินถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อและอ้อดอ้อน

“เรื่องของเราสองคนมันจบลงแล้ว เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือ” นโปเลียนถามโจเซฟิน

“พี่ก้อ พี่น้องอยากจะขอร้องบางสิ่งได้ไหม” โจเซฟินถามนโปเลียน

“ก็เราตกลงกันแล้ว เรื่องเงิน 1 ล้านฟรังส์ฉันจะให้เธอแน่นอนไม่ต้องมาทวง” นโปเลียนตอบโจเซฟินด้วยความเข้าใจผิด

“น้องไม่ได้หมายถึงเรื่องเงินน้องเชื่อใจพี่ น้องไม่ได้มาทวง น้องอยากขอร้องให้พี่ปล่อยให้ท่านบาราสลาออกจากตำแหน่งได้ไหมค่ะ” โจเฟซินขอร้องนโปเลียน

“ทำไมบาราสไม่มาด้วยตนเอง ทำไมต้องให้เธอมาขอร้อง”นโปเลียนถามด้วยความสงสัย

“ท่านบาราสรู้ว่าน้องเป็นภรรยาพี่ เขาเลยให้ภรรยามาขอร้อง โจเซฟินโกหกนโปเลียน”

“มันคงมากกว่านั้น ไม่ใช่แค่ขอแค่ลาออกเพียงอย่างเดียว” นโปเลียนเอ่ยขึ้น

“เออ ภรรยาท่านบาราสขอร้องให้น้อง ช่วยบอกพี่ว่าถ้าท่านบาราส ลาออก พี่อย่ารื้อเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาได้ไหม ท่านบาราสอยากจะไปใช้ชีวิตสงบไม่เกี่ยวข้องกับบ้านเมืองเรื่องที่ผ่านมา ก็ขอให้ผ่านไป” โจเซฟินขอร้องนโปเลียน

“น๊ะ พี่ น๊ะ ขอร้องเหอะ น้องขอร้องเป็นเรื่องสุดท้ายพี่รับปากได้ไหมค่ะ” โจเซฟินออดอ้อน

นโปเลียนไม่ต้องการสร้างศัตรูทางการเมืองเพิ่มก็เลยตอบตกลง ทำให้โจเซฟินขอบใจและลาจากไป

 

 

You may also like...