บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 318)

 “นายท่าน คุณเคน จอมพลมีโน่ คุณลูเซียงมาแล้วครับนาย” รัสตัมเดินเข้ามาในห้อง นโปเลียนกำลังสนทนากับอาดัม

“ดีออกไปรับพวกเขากันคุณอาดัม” นโปเลียนบอกกับอาดัม

“ได้ครับ”

“สวัสดีท่านสุภาพบุรุษทุกท่าน” นโปเลียนเอ่ยปากทักทาย บักเคน จอมพลมีโน่ และลูเซียงน้องชาย

“ครับท่านนโปเลียน” หลังจากทักทายทุกคนก็เดินเข้าไปในห้อง โดยมีรัสตัมยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง

“ที่ผมเรียกพวกท่านมาหารือในวันนี้ ผมตัดสินใจแล้ว ว่าจะไปแจ้งให้ ประธาน โฌแซฟ ซีแยส์ ว่าเพื่อความเหมาะสม ผมจะให้ท่านลาออกจากประธาน และผมจะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเอง ส่วน โฌแซฟ ผมจะให้เป็นลำดับที่สอง ส่วน โรเฌ่ร์ ก็เป็นเบอร์สามเหมือนเดิม”

“ถูกต้องแล้วครับท่าน” จอมพลมีโน่เอ่ยปากสนับสนุน

“ผมว่าพี่คิดถูกต้องแล้ว อำนาจเป็นสิ่งหอมหวาน พี่ยึดอำนาจแต่พี่กับมอบอำนาจให้คนอื่น ผมก็ไม่กล้าค้าน พี่เป็นประธานเองก็ดีแล้ว เมื่อประชุมสภา เมื่อท่าน โฌแซฟ ลาออก จะให้มีการเลือกประธานใหม่ ผมจะให้สมาชิกพรรคของผมที่เป็น ส.ส. เสนอชื่อพี่เป็นประธาน” ลูเซียง บอกกับพี่ชาย

“ยินดีด้วยท่านประธาน นโปเลียน ผมค่อยหายใจคล่องหน่อยที่ท่านตัดสินใจ ยึดอำนาจบริหารมาอยู่ที่ท่านโดยตรง ไม่ต้องยืมมือใครมาใช้อำนาจแทนท่าน” บักเคนบอกกับนโปเลียน

          “ที่ผมเรียกพวกท่านมาประชุมก็เพราะอยากจะกำหนดทิศทางของประเทศ การฟื้นฟูประเทศเป็นสิ่งเร่งด่วน ผมมอบหมายให้คุณอาดัม เป็นประธานเลือกตัวแทน พ่อค้า นายธนาคารที่เก่ง ๆ เข้ามาช่วยกันปฏิรูปการค้าฝรั่งเศสให้ประชาชนพ้นจากความหิวโหย” นโปเลียนบอกกับทุกคน

“สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้บ้านเมืองสงบ มีกฎหมายที่เป็นธรรมกับทุกคน ผมอยากให้คุณเคนเป็นผู้นำในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย และร่างกฎหมายใหม่  โดยเฉพาะกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ที่ผมจะให้ร่างใหม่ จะให้อาจารย์มหาวิทยาลัย ทนายความ ผู้พิพากษา พ่อค้า คนที่มีความรู้ เข้ามาเป็นคณะกรรมการ โดยคุณเคนเป็นประธาน ผมได้เชิญ ท่านกอมบาซาเรมาเป็นรองประธาน และคัดเลือกคนมีความสามารถจากมหาวิทยาลัย ทนายความ และผู้พิพากษา พ่อค้า และคนหลากหลายอาชีพ มาร่วมพิจารณากฎหมายใหม่เพื่อความเป็นธรรม “ นโปเลียนบอกกับบักเคน ผมอยากให้คุณเคน ให้ความสำคัญกับประชาชน อยากให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้บรรจุในรัฐธรรมนูญด้วย ว่าประชาชนต้องมีส่วนร่วม” นโปเลียนบอกกับบักเคน

“มันจะดีหรือท่าน ผมเป็นคนนอก ผมว่าให้ท่านกอมบาซาเรเป็นประธานดีกว่า ผมไม่รู้จักท่านกอมบาซาเรคือใคร แต่ผมก็เชื่อท่านว่าดูคนไม่ผิด” บักเคนบอกกับนโปเลียน

“ขอบใจคุณเคน ท่านกอมบาซาเรเป็นนักกฎหมายที่เชี่ยวชาญ ผมให้พลโทหญิงโคลเอ้ ไปรวมรวมรายชื่อคนมีความรู้ความสามารถในฝรั่งเศสและต่างประเทศมาให้ผม และมอบหมายให้พลโทหญิงโคลเอ้เป็นคนไปทาบทามท่านเหล่านั้นมาช่วยงานผม” นโปเลียนบอกกับบักเคน

“ผมให้ความสำคัญกับกฎหมายมาก ต้องขอบคุณพลโทหญิงโคลเอ้ ที่รวบรวมและทาบทามบุคคลที่มีชื่อเสียงด้านกฎหมายเช่น ท่านเดนิสซัว ประธานศาลฎีกา ท่านบิโกส ท่านมาวิลล์ (Maleville) และอีกหลายท่านให้มาร่วมทำงานกับคุณเคน ในการร่างกฎหมายผมมีเจตนากฎหมายต้องสามารถใช้ได้จริงนำไปปฏิบัติได้ มีความเท่าเทียมกัน ต้องคำนึงถึงเจตนารมณ์ของการปฏิวัติฝรั่งเศสที่ผ่านมาด้วยเพราะกฎหมายมาจากเลือดเนื้อของผู้พลีชีพเพื่อประชาธิปไตย ประชาชนสูญเสียมามากพอแล้ว กฎหมายที่ผมอยากให้คุณเคนนำไปร่วมพิจารณากับนักกฎหมายที่ผมจะเชิญมาร่วมร่างกฎหมายใหม่คือจะต้องคำนึงถึงกฎหมายจารีตประเพณีและกฎหมายลายลักษณ์อักษรจะต้องสอดคล้องกัน อย่าขัดแย้งกันกับกฎหมายจารีตประเพณี

ที่ผมให้ความสำคัญรองลงมาจากกฎหมายรัฐธรรมนูญคือกฎหมายแพ่ง เพราะกฎหมายแพ่งจะทำให้การปฏิวัติฝรั่งเศสเป็นรูปธรรม ประชาชนจะมีความเป็นอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน” นโปเลียนบอกกับบักเคน

 “ส่วนการคัดเลือกรัฐมนตรีผมไม่สนใจว่าหลายคนที่ผมจะทาบทามให้มารับตำแหน่งจะไม่ชอบผม ก็ตาม แต่ผมเห็นว่ามีความสามารถในการบริหารงานได้ ผมจะไปเชิญมาเป็นรัฐมนตรี

“สุดยอดครับท่าน ท่านมีความคิดที่ก้าวหน้ามาก” อาดัมกล่าวชมเชย

“ขอบคุณ ผมมีหลักการทำงาน คนที่จะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว นอกจากทีมงานที่ดีแล้ว มีความไว้วางใจ เชื่อมั่นในการให้เขามาทำงานให้อิสระ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือความรับผิดชอบทั้งหมด ไม่ว่าสำเร็จหรือล้มเหลว ไม่มีข้ออ้างความรับผิด เมื่อมอบหมายก็ต้องเชื่อมั่นและไว้วางใจ” นโปเลียนเอ่ยให้ทุกคนได้ยิน ในสิ่งที่นโปเลียนได้มอบหมายให้ทุกคนทำงานให้ ไม่ปฏิเสธความรับผิดถ้าคนที่รับมอบหมายทำผิดพลาดผู้นำต้องรับผิดชอบ

บักเคนลุกขึ้นและโค้งให้นโปเลียนและ กล่าว “ผมต้องขอบคุณท่าน ผมจะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เต็มความสามารถท่านไม่ต้องห่วง”

“สำหรับคุณอาดัม ที่จะมาผลักดันนโยบายเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อน คุณอาดัมมีแนวคิดอย่างไร พอบอกคร่าว ๆ ได้ไหม นอกจากการค้าทาสแล้ว

“ขอบคุณที่เชื่อมั่นในตัวผม ผมอยากจะบอกทุกท่านในที่นี่ ผู้คน ธุรกิจ และประเทศ ล้วนวนเวียนอยู่ในวงจรเดียวกัน” อาดัม

บอกกับทุกคน

          “อืมส์น่าสนใจ คน สังคม ธุรกิจ ประเทศคือสิ่งเดียวกัน ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน” นโปเลียนถึงกับเอ่ยปากออกมา

          “มันเป็นอย่างไรคุณอาดัม” ลูเซียงถึงกับถามด้วยความสนใจ

ผมจะอธิบายให้ทุกท่านได้เห็นภาพ เป็นวงจร อันดับแรก เกิดวิกฤต ก็เหมือนกับเด็กที่เกิดมา เดินไม่ได้ ทานเองไม่ได้ ก็ต้องอาศัยมารดา คอยดูแล ต่อจากนั้น แม่ก็ต้องดิ้นรนหาอาหาร มีบ้านเป็นของตนเอง ก็ต้องสร้างบ้านปลูกผักเลี้ยงสัตว์ เพื่อดำรงชีวิตและเลี้ยงลูกที่เกิดมาให้มีชีวิตรอด ซึ่งในที่นี่ผมจะเรียกว่าการปฏิรูป ทำให้แม่เด็กมีชีวิตอยู่ได้ ไม่ว่าอากาศจะเปลี่ยนแปลง มีบ้านที่ให้ความอบอุ่นที่พักอาศัย  แม่และเด็กก็จะมีชีวิตอยู่รอด และต้องมีการพัฒนา ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สาม เมื่อพัฒนา อยู่สุขสบาย มีอาหาร ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ สังคมมีความสงบสุข ก็จะอยู่ในขั้นต่อไป คือลืมตัว เพราะคิดว่ามีทุกสิ่ง อาหาร ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย เมื่อมีปัญหา ก็บอกว่าไม่เป็นไร ทุกสิ่งสามารถหาได้ ก็ผลัดไปเรื่อย ๆอยู่ในขั้นตอนเพิกเฉย ถ้าเป็นบ้านก็หลังคารั่ว พอฝนตกหนัก ทำให้น้ำรั่ว  ก็บอกว่า ฝนตก ยังไม่มีเวลาซ่อมหลังคา เดี๋ยวก็หมดฝนแล้ว ไว้ ปีหน้าค่อยซ่อม ผัดผ่อนไปเรื่อย ถ้าเป็นประเทศ เมื่อเกิดปัญหาโจร ชุกชุม โรคระบาดแพร่กระจาย ความอดอยาก ในขั้นตอนนี้ ถ้าเป็นครอบครัว จะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นคนสังคมหรือธุรกิจมันจะวิกฤต แทบล่มสลาย เพราะคนในสังคม เพิกเฉยปัญหาในสังคม โดยเฉพาะคนที่ไม่เดือดร้อน เช่น ขุนนาง พ่อค้า นักบวช  ส่วนชาวบ้านไม่มีทั้งอำนาจ และอาวุธก็ต้องการให้มีคนมาช่วย ถ้าคนในสังคมไม่ช่วยกัน พยายามหาคนช่วยเยียวยาปัญหาที่มันเกิดขึ้น มันอยู่ในขั้นตอนพึ่งพาคนอื่น เวลานี้ ฝรั่งเศสอยู่ในขั้นตอนนี้ ต้องการเรียกร้องหาคนนำพาประเทศให้มีเกียรติภูมิ เหมือนเดิม ซึ่งท่านนโปเลียน ก็อยู่ในช่วงนี้ คนฝรั่งเศสทั้งประเทศต่างมุ่งหวังมาที่ท่านที่จะนำพาประเทศรอดพ้นวิกฤต” อาดัมอธิบาย

You may also like...