บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 191)

บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 191)

“แล้วเหตุการณ์เป็นอย่างไรต่อครับ คุณเคน” รัสตัมถามด้วยความสนใจในสิ่งที่บักเคนเล่า

คณะไต่สวนที่ตั้งโดยรัฐบาลอังกฤษ ใช้เวลาสอบสวนอยู่นานทำคดีให้ช้าเข้าไว้ เพื่อให้ย่าทวดผู้พันเปิดปากสารภาพผิด แต่ย่าทวดก็ไม่ยอมรับสารภาพ แม้ว่าบางครั้งย่าทวดผู้พันป่วยหนัก ก็คิดว่ายอมรับว่าผิดเรื่องคงจะยุติ ศาสนาจักรคงพอใจ แต่ผลการสารภาพกลับไม่เป็นตามที่ย่าทวดผู้พันคิด การยอมรับผิด ไม่เป็นที่พอใจของคณะกรรมการไต่สวนเพราะอยากจะให้ผิดตามธงคำตอบที่ตั้งไว้ ว่าเป็นแม่มดช่วยเหลือกษัตริย์ ชาลส์ที่ 7 ได้ขึ้นครองราชย์ และข้อหา ว่าอวดอ้างติดต่อกับสวรรค์ได้ คณะไต่สวนจึงข่มขู่ว่าจะทรมานย่าทวดผู้พัน ซึ่งเธอก็ไม่ยอมรับ ต่อให้ทรมานจนตัวตายก็ไม่ตอบเป็นอย่างอื่น เพื่อให้เสื่อมพระเกียรติยศของกษัตริย์ ชาลส์ นอกจากยอมรับผิดตามที่สารภาพ เธอประกาศว่าต่อให้ทรมานเธอจนตายเธอก็จะไม่ตอบอย่างอื่น และจะขอยืนยันคำเดิม พร้อมกล่าวต่อไปว่าคำให้การใดๆ ของเธอหลังจากนี้หากเปลี่ยนแปลงไปก็เป็นเพราะถูกบิดเบือนด้วยการใช้กำลังบังคับ คณะไต่สวน จึงตัดสินใจส่งย่าทวดผู้พันไปพิจารณาต่อในศาลอาณาจักรซึ่งมีอำนาจลงโทษพวกนอกรีตด้วยโทษตายได้

“เมื่อย่าทวดได้ทราบว่าคณะกรรมการไต่สวนจะส่งตัวไปยังศาลอาณาจักร ย่าทวดก็ยอมรับสารภาพตามที่คณะกรรมการไต่สวนต้องการและศาลศานจักรจึงถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตและให้เลิกแต่งตัวเป็นผู้ชายย่าทวดผู้พันก็ยอมรับและปฏิบัติตาม”

“เรื่องก็น่าจะจบไม่ใช่หรือครับ” นาธาเนียลถามด้วยความสงสัย

“ย่าทวดแต่งตัวเป็นผู้ชายมาตลอด เมื่อจำใจแต่งตัวเป็นหญิง ก็แต่งตัวได้เพียงสองสามวันผมคิดว่า ย่าทวดคงจะไม่ชินที่แต่งตัวเป็นหญิง เพราะเคยแต่งเป็นผู้ชายมาตลอด นอกจากนี้ย่าทวดได้อ้าง เซนต์แคเธอรีนและเซนต์มากาเร็ตได้มาพบในยามค่ำคืนละตำหนิว่าทรยศด้วยการยอมรับสารภาพต่อศาสนจักร” บักเคนเล่าต่อไปว่า  “ทำให้ศาลศาสนาตัดสินว่าประพฤตินอกรีตอีกครั้งและตัดสินใจส่งตัวย่าทวด   ผู้พันไปขึ้นศาลอาณาจักร

“น่าสงสารกษัตริย์ชาลส์ทรงโหดร้ายนัก ไม่ยอมช่วยเหลือย่าทวดที่อุตสาห์สละชีวิต ต่อสู้ให้ขึ้นครองราชย์ได้อย่างสง่าผ่าเผย แต่ได้รับการตอบแทน ด้วยความเพิกเฉย” นาธาเนียลเอ่ยขึ้นมา

“หลังจากนั้น ศาลศาสนจักรได้มีคำตัดสินว่าประพฤติผิดเป็นพวกนอกรีต ให้เผาให้ตายทั้งเป็น” บักเคนพูดด้วยความสงสาร

“ผลประโยชน์ ทำให้คนหน้ามืดตามัว ลืมคนที่เคยมีบุญคุณ  ยามต้องการผลประโยชน์ ก็พูดดียินดีสนับสนุนให้ทุกอย่าง แต่เมื่อบรรลุเป้าหมายก็หาทางกำจัดให้พ้น กลัวเขาจะมาทวงบุญคุณ บางครั้งก็เข่นฆ่าสังหารให้อาสัญ บางครั้งยืมมือคนอื่นลงมือแทน แล้วก็แสร้งเสียใจ เสียดาย คนดี คนเก่ง เพราะได้ตายจากไปแล้ว รีบมอบสิ่งที่ผู้ที่เคยช่วยเหลือแต่ชีวิตหาไม่แล้ว ได้ในสิ่งที่เขาไม่รับรู้ ” รัสตัมบอกกับบักเคน

“ใช่ เหมือนกับสังคมที่สยาม คนยามมีชีวิตอยู่ผู้ตายไม่เคยดื่มเหล้า ทานแต่เจมาเกือบชั่วชีวิต พอเสียชีวิตไป ญาติพี่น้อง รีบเอาสุราอย่างดี เนื้อ หมู ไก่ ปลา มาเซ่นไหว้ อ้างว่าเป็นประเพณี ให้ผู้ตายทานให้อิ่ม แต่คนตายคงไม่มีปัญญาทาน ยามผู้ตายมีชีวิตอยู่ กับห้ามโน่นห้ามนี่ห้ามไม่ให้ทาน” บักเคนรำพึง

ร้อยโทเดนนิสไม่ได้รับคำสั่งจากนโปเลียนให้ติดตาม เลยควบม้ากลับไปกองทหาร เมื่อขี่ม้าถึงกองทหาร อาดัมได้มาขอพบนโปเลียน

“สวัสดีร้อยโทเดนนิส ท่านนโปเลียนอยู่ไหม” อาดัมถาม

ร้อยโทเดนนิสได้บอกกับอาดัม “คุณอาดัม ท่านนโปเลียนกับท่านเกลแบร์    คุณเคน ได้ไปสำรวจเส้นทางเพื่อขุดคลอง”

“ดีเลยผมอยากไปสำรวจเส้นทางด้วย ช่วยรบกวนนำผมไปร่วมสำรวจเส้นทางด้วยได้ไหม” อาดัมบอกกับร้อยโทเดนนิส

“ได้ครับคุณอาดัม  ผมจะนำไปพบท่านนโปเลียนเดี๋ยวนี้”

“ได้เลยครับ”

เสียงควบม้าตามมา ทุกคนถึงกับหยุด และหันไปมองว่าใครควบม้ามา

“อ้าวร้อยโทเดนนิส กับคุณอาดัมมา” บักเคนอุทานออกมา

“ท่านนโปเลียนคุณอาดัมอยากจะมาสำรวจเส้นทางขุดคลองด้วยครับ” ร้อยโทเดนนิสร้องตะโกนบอกนโปเลียน

“นโปเลียนได้หยุดม้ารอให้อาดัมกับร้อยโทเดนนิส  มาพบ

“ทำไมคุณอาดัมกับร้อยโทเดนนิส ถึงรีบร้อนมาพบผม” นโปเลียนบอกกับอาดัมและร้อยโทเดนนิส

“พอได้ทราบข่าวว่าท่านมาสำรวจเส้นทางผมสนใจจึงให้ร้อยโทเดนนิสนำผมมาร่วมสำรวจด้วยครับท่าน” อาดัมบอกกับนโปเลียน

“อ๋อ…”

ร้อยโทเดนนิสกับอาดัมก็ขี่ม้าเคียงคู่กันกับบักเคน

คุณเคนเล่าต่อกำลังสนุก  นาธาเนียลบอกให้บักเคนเล่าต่อ

“หลังจากย่าทวดผู้พันถูกเผาทั้งเป็น เสียชีวิตไปกว่า 20 ปี จนคนเริ่มลืมในเหตุการณ์ย่าทวดถูกเผาทั้งเป็นกษัตริย์ชาลส์ที่ 7 คงคิดได้ว่าทำผิดต่อย่าทวดผู้พันนาตาช่า ได้ทรงสั่งให้รื้อคดีขึ้นมาสอบสวนใหม่ ตามการยื่นฎีกาของญาติพี่น้องของย่าทวดที่คิดว่าการถูกเผาทั้งเป็นมันไม่ยุติธรรม จึงทำฎีกาทูลเกล้า ส่งไปยังกษัตริย์ ชาลส์ที่ 7 และศาสนาจักรพร้อมกัน หลังจากพระสันตะปาปาคาลิกส์ตุสที่ 3 และกษัตริย์ ชาลส์ ได้รับคำร้องทุกข์ ทรงสั่งให้รื้อคดีขึ้นมา สอบสวนใหม่อีกครั้ง และได้มีคำสั่งยกคำตัดสินเดิม พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 15 ได้ประกาศให้ย่าทวด      ผู้พันนาตาช่าได้เป็นโจนออฟอาร์ค” (Joan of Arc) เป็นนักบุญแห่งคริสตจักรคาทอลิก

“เล่าเรื่องอะไรกันครับคุณเคน” ร้อยโทเดนนิสเพิ่งมาถึงไม่ทราบเรื่องราวตั้งแต่ต้น

“อ๋อผมเล่าเรื่องย่าทวดผู้พันนาตาช่าได้เป็นเซนส์หลังจากถูกเผาทั้งเป็นคดีถูกรื้อขึ้นมาใหม่”

“อืมส์… ถ้าผมเกิดทันสมัยนักบุญโจนออฟอาร์ค ท่านคงไม่ถูกเผาทั้งเป็นแน่นอน” ร้อยโทเดนนิสบอกกับทุกคน

“ทำไมละในเมื่อ ศาลศานาจักรได้สั่งลงโทษให้เผาท่านทั้งเป็น เวลามันก็ล่วงเลยผ่านมาหลังจากถูกเผากว่า 20 ปี พระเจ้าชาลส์ทรงให้รื้อคดีใหม่ แล้วมีเหตุผลอะไร ที่จะไม่ถูกเผา” บักเคนสงสัยในคำพูดของร้อยโทเดนนิส

“คุณเคนเชื่อในเรื่องเครื่องราง ที่บันดาลให้รอดพ้นจากภัยต่าง ๆ ประสบแต่โชคดีหรือไม่ ”

“ผมเชื่อ เพราะตอนเรือล่ม ผมได้เหรียญหลวงปู่รอด ห้อยคอ ทำให้รอดพ้นความตายอย่างหวุดหวิดและคราวต่อสู้ใกล้ป้อมบัสตีย์ผมก็ถูกยิงแต่กระสุนไม่เข้าเพียงเป็นรอยจ้ำแดง” บักเคนบอกกับร้อยโทเดนนิส

“พระเจ้าช่วย” “โอมายก๊อด” “อะไรนะคุณเคนโดนยิง กระสุนไม่เข้า” ทุกคนอุทาน

“ผมเชื่อไม่สงสัย ร้อยโทเดนนิสได้เอาเครื่องรางที่ตนนับถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อ นี่คือเหรียญแห่งความโชคดี ป้องกันอันตรายได้ทุกสิ่ง” ร้อยโทเดนนิสได้ชูเหรียญให้ทุกคนได้ชม

“ขอชมหน่อย อยากเห็นเป็นบุญตา” บักเคนบอกกับร้อยโทเดนนิส

“ให้ตายเหอะโรบิน ที่มันเหรียญเรดบูล (Redbull) นี่เป็นเครื่องรางได้อย่างไรร้อยโทเดนนิส ล้อผมเล่นหรือเปล่า” บักเคนถึงกับอุทานออกมา

“ไหนขอดูหน่อยคุณเคน อาดัมถึงกับอดเก็บความสงสัยไม่ไหว ขอดูเครื่องรางที่ร้อยโทเดนนิสพกติดต่อ เป็นเหรียญเรดบูล

You may also like...