บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 268)

บักเคนทะลุมิติ ภาค 1 (ตอนที่ 268)

“มีอะไรหรือท่านโจซัวร์” รัสตัมหลังจากออกจากห้องประชุมก็มาคุยกับร้อยเอกโจซัวร์

“พันตรีชามิลไม่อยากพบกับท่านแกรนด์ เลยขอร้องผมให้มาบอกกับท่านนโปเลียน” ร้อยเอกโจซัวร์บอกกับรัสตัม

“ทำไมไม่มาพบกับท่านแกรนด์ มีเหตุผลอะไรหรือเปล่า” รัสตัมถามด้วยความสงสัย

“มีพันตรีชามิลบอกว่า ท่านแกรนด์เป็นคนโมโหร้าย ถ้าเห็นหน้าผู้พันอาจจะโกรธมากอาจจะสั่งฆ่าล้างครอบครับผู้พันชามิล เลยขอร้องผมให้มาช่วยพูดกับนโปเลียน ให้ท่านนโปเลียนบอกว่าผู้พันชามิลป่วยหนักเป็นโรคร้ายแรง เพื่อลดความโกรธของท่านแกรนด์” ร้อยเอกโจซัวร์บอกกับรัสตัม

“ท่านจะให้ผมไปบอกกับนายท่านใช่ไหม” รัสตัมถามร้อยเอกโจซัวร์

“ใช่สงสารพันตรีชามิล ไม่รู้จะตายหรือไม่แต่ครอบครัวเขาไม่มีมีความผิดจะต้องมาตายตามไปด้วยมันไม่ยุติธรรม มารบตามคำสั่ง การรบแพ้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ควรลามไปถึงครอบครัวที่ไม่รู้เรื่องราวไปด้วยแค่ขาดเสาหลักก็ลำบากแย่อยู่แล้ว ทำไม่ต้องมาตายตามทั้งครอบครัวมันโหดเกินไป” ร้อยเอกโจซัวร์บอกกับรัสตัม

“เลิกประชุมพรุ่งนี้ประชุมต่อ”  ทุกคนแยกย้ายกันกลับ แกรนดวิเซียร์ยังไม่ได้พบผู้พันชามิล เพราะทางฝรั่งเศสยังไม่อนุญาต รอให้ประชุมเสร็จก่อน  หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ร้อยเอกโจซัวร์ได้นำท่านลอร์ดเบนจามินกับ ท่านแกรนด์วิเซียร์ไปส่งที่ชายหาด เพื่อให้พายเรือกลับไปยังเรือรบ  ส่วนนโปเลียนก็กลับมาที่พัก พร้อมกับรัสตัมเป็นผู้ดูแลอารักขา ส่วนบักเคนก็ไปกลับร้อยเอกโจซัวร์และพลทหารนาธาเนียล เพื่อสืบข่าวคราวถึงเรือที่อาดัมออกทะเลไปก่อนหน้านั้น จะประสบเหตุร้ายหรือไม่ บักเคนห่วงซูซี่และแม่ที่เดินทางไปก่อนล่วงหน้าพร้อมกับอาดัมไม่รู้จะเป็นอย่างไร เป็นความห่วงใยแต่ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะคู่สงครามสองประเทศคงเป็นไปไม่ได้ที่บักเคนจะกลับฝรั่งเศสโดยอาศัยเรืออังกฤษ

นโปเลียนเมื่ออ่านหนังสือพิมพ์จบ สีหน้ากังวลหลังจากได้อ่านข่าวหนังสือพิมพ์นโปเลียนถึงกับนอนไม่หลับ บอกให้รัสตัมไปตามทุกคนมาร่วมประชุมด่วนกลางดึก เพราะข่าวฝรั่งเศสเสียดินแดนอิตาลีช่างเป็นข่าวร้ายที่ทำร้ายจิตใจนโปเลียนเสียเหลือเกิน ดินแดนอิตาลีที่นโปเลียนมีส่วนช่วยแย่งชิงกลับต้องสูญเสียให้กับกองทัพผสมออสเตรียและรัซเซียที่บุกโจมตีฝรั่งเศสในอิตาลี ทำให้นโปเลียนต้องเรียกประชุมทั้งกลางดึก

“เอาอย่างไรดี ผมนอนไม่หลับต้องเรียกประชุมด่วน” นโปเลียนบอกกับทุกคนด้วยสีหน้ากังวล

“ใจเย็น ๆ ท่าน ค่อยคิดหาทางแก้ไข ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้” พลเอกกาลีเบอร์บอกกับนโปเลียน

“ผมตัดสินใจแล้วผมต้องกลับฝรั่งเศสด่วน” นโปเลียนบอกกับทุกคน

“อะไรนะ ท่าน” ทุกคนอุทานพร้อมกัน

“ท่านค่ะจะกลับฝรั่งเศสหรือแล้วที่อียิปต์จะเอาอย่างไร เราไม่มีเรือเพียงพอที่จะขนทหารฝรั่งเศสกลับได้ทั้งหมด” ผู้พันโคลเอ้บอกกับนโปเลียน

“ท่านนโปเลียน ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้นครับท่าน” พลเอกมีโน่ เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“เอาละผมตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว พรุ่งนี้ให้รวบรัดต้องได้คำตอบจากการประชุม” นโปเลียนตัดบท

“เลิกประชุม หลังจากพรุ่งนี้เจรจาเสร็จแล้ว ขอให้พวกเรามาประชุมต่อ” นโปเลียนย้ำกับทหารที่ร่วมรบกันมา

“ครับท่านนโปเลียน” ทุกคนขานรับพร้อมกัน

“เกิดอะไรขึ้นหรือท่านนายพล” บักเคนชักสงสัยถึงกับการเรียกประชุมกลางดึกของนโปเลียน ทำให้บักเคนถามพลเอกมีโน่ด้วยความสงสัยเพราะบักเคนไม่ได้ถูกเรียกให้เข้าประชุม พอทราบข่าวว่านโปเลียนเรียกทหารประชุมกลางดึกบักเคนเลยเกิดความสงสัยถึงกับสอบถามพลเอกมีโน่

“ฝรั่งเศสเสียดินแดนอิตาลี ทำให้ท่านนโปเลียนเรียกประชุมกลางดึกและท่านตัดสินใจกลับฝรั่งเศสอย่างรีบด่วน” พลเอกมีโน่บอกกับบักเคน

“อะไรน่ะท่าน นโปเลียนจะกลับฝรั่งเศส” บักเคนถึงกับอุทานออกมา แต่ในใจดีใจสุดชีวิตจะได้จากดินแดนทะเลทรายกลับคืนฝรั่งเศสเสียที

แสงทองจับขอบฟ้า วันนี้เป็นการเจรจาวันที่สอง แกรนด์วิเซียร์กับลอร์ดเบนจามินได้นั่งเรือมาขึ้นฝั่งโดยมีร้อยเอกโจซัวร์มารอรับเหมือนเดิม

ซึ่งคำตอบของรัสตัมกับร้อยเอกโจซัวร์ก็ยังค้างเพราะนโปเลียนบอกตัดบทให้เลิกประชุม คำขอร้องของผู้พันชามิลก็ยังไม่ได้คำตอบจาก นโปเลียน

หลังจากทุกคนมาพร้อมประชุม รัสตัมได้เดินเข้าไปในห้องและกระซิบให้นโปเลียนที่กำลังนั่งฟังพลเอกกาลีเบอร์กำลังเจรจากับลอร์ดเบนจามินถึงรายละเอียดปลีกย่อยของสัญญาสงบศึกต่อจากเมื่อวาน

“นายท่านพันตรีชามิลได้ฝากคำพูดมากับร้อยเอกโจซัวร์ให้ท่านบอกกับท่านแกรนด์วิเซียร์ว่า พันตรีชามิลป่วยหนักเป็นโรคร้ายแรงไม่สามารถมาพบได้” รัสตัมกระซิบบอกกับนโปเลียน

“อ้าวผู้พันชามิลป่วยเป็นอะไร ทำไมไม่มีคนรายงาน” นโปเลียนถามรัสตัมด้วยความสงสัย

“ผู้พันชามิลบอกว่าท่านแกรนด์วิเซียร์เป็นคนโมโหร้ายถ้าผู้พันชามิลมาพบจะโกรธและสั่งฆ่าล้างครอบครัวเพราะรบพ่ายแพ้ ผู้พันเลยอยากขอร้องนายท่านช่วยบอกกับท่านแกรนด์วิเซียร์ว่าผู้พันป่วยหนักไม่สามารถมาพบได้” รัสตัมกระซิบบอกกับโนเปลียน

“อืมม์ เราละเราจะบอกตามที่ผู้พันชามิลขอร้อง” นโปเลียนบอกกับรัสตัม และรัสตัมหลังจากกระซิบบอกก็เดินออกไปเพื่อบอกข่าวกับร้อยเอกโจซัวร์

“ท่านนโปเลียนรับปากว่าจะช่วยผู้พัน” รัสตัมบอกกับร้อยเอกโจซัวร์

“สมแล้วที่เป็นแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ เมตตาแม้กระทั้งครอบครัวของศัตรู ที่ไม่มีความผิด” ร้อยเอกโจซัวร์ถึงกับพูดยกย่องนโปเลียนออกมา

รัสตัมหลังจากบอกกับร้อยเอกโจซัวร์เสร็จก็เดินเข้าไปในห้องประชุมและยืนอยูด้านหลังนโปเลียนเหมือนเดิม

          การเจรจาระหว่างพลเอกกาลีเบอร์กับท่านลอร์ดเบ็นจามินเป็นไปเคร่งเครียด สีหน้าลอร์ดเบนจามินดูเคร่งเครียด สลับกับไปพูดหารือกับร้อยเอกสตีฟ นายทหารติดตาม

          “ท่านนายพลผมขอหารือนอกรอบกับทหารผมก่อนได้ไหม”

          “เชิญท่านลอร์ด” พลเอกกาลีเบอร์บอกกับท่านลอร์ดเบนจามิน

          ช่วงระหว่างรอ นโปเลียนหยิบหนังสือพิมพ์ที่ท่านลอร์ดเบนจามินนำมามอบให้มาอ่านทวนซ้ำอีกหลายรอบ พร้อมกับการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด  

          “สตีฟจะเอาอย่างไรดี ทางฝรั่งเศสไม่ยินยอมจะให้เรายกเรือรบให้ และจ่ายค่าไถ่ทหารเติร์ก และให้พวกเราเดินเท้ากลับ”

 

          “มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา แต่เป็นหน้าที่ของท่านแกรนด์วิเซียร์ อังกฤษแค่ช่วยเหลือลำเลียงทหารเท่านั้น ท่านลอร์ดอย่าไปยอม ถ้าพวกฝรั่งเศสไม่ตกลงเราก็ถอนสมอเรือกลับอังกฤษ ให้ท่านแกรนด์วิเซียร์แก้ปัญหาเอาเอง” ร้อยเอกสตีฟบอกกับลอร์ดเบนจามิน

You may also like...